วันพุธที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ดูญี่ปุ่น...แล้วย้อนดูไทย ถึงเวลา ชูธงโรงไฟฟ้าถ่านหิน(2)


ญี่ปุ่น ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็คือ อสูรสงคราม ดี ๆ นี่เอง เที่ยวแผ่ขยายอำนาจไปทั่ว ในจีน ฟิลิปปินส์ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กระทั่งบุกโจมตีอ่าวเพิร์ลฮาเบอร์ ปลุกยักษ์อเมริกันกระโจนสู่สงคราม และแพ้ราบคาบด้วยระเบิดปรมาณู 2 ลูก ที่ฮิโรชิมา กับนางาซากิ หลังสงครามโลก ญี่ปุ่นใต้เงาอเมริกาจัดระเบียบตั้งแต่รัฐธรรมนูญยันระบบการเมือง การทหาร ญี่ปุ่นใหม่มุ่งหน้าสู่อุตสาหกรรมหนัก-เบา การค้าการขาย เป็นหลัก กลายเป็น ชาติร่ำรวยติดอันดับโลก

แต่จิตวิญญาณลูกพระอาทิตย์ยังเหนียวแน่น คนญี่ปุ่นยังเข้มข้นด้วยความขยัน อดทน มีวินัย เสียสละเพื่อส่วนรวมเป็นเลิศ ภาพการต่อคิวรับอาหารและซื้อของในร้านค้าของคนญี่ปุ่นหลังถูกสึนามิถล่ม เมืองฟูกุชิมะราบเป็นหน้ากอง คือไม่มีการเบียดเสียด ไม่แย่งชิง เข้าแถวซื้อสินค้าจำเป็นแต่พอดี เหลือของให้คนข้างหลังได้แบ่งปัน ช่างได้ใจคนทั่วโลก เห็นแล้วน้ำตาซึม ไม่เท่านั้น ซากตึกปรักหักพังที่ปนเปื้อนรังสีปรมาณูจากเตาปฏิกรณ์ในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ หลอมละลาย ใครจะไปคิด คนนอกฟูกุชิมะทำโพลออกมา หลายจังหวัด ยินดีแบกรับความทุกข์ของเพื่อนร่วมชาติ ยินยอมให้ขนของเสียมาทิ้งในพื้นที่ตัวเองได้ หาได้ง่าย ๆ หรือ จิตใจเสียสละเช่นนี้ แต่ญี่ปุ่นทำได้

กลับมาที่การดูงานโรงไฟฟ้ากับ กฟผ.ต่อ โรงไฟฟ้าแรกในโปรแกรมคือ โรงไฟฟ้าถ่านหินแบบเปิด อิโซโกะ เมืองโยโกฮามา ใกล้กรุงโตเกียว เจ้าของคือบริษัท J-POWER ผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่มาก มีกำลังการผลิต 16,992 เมกะวัตต์ ใกล้เคียงกับ กฟผ. หรือประมาณครึ่งหนึ่งของกำลังการผลิตไฟฟ้าของไทย แค่ย่างเท้าเข้าอิโซโกะก็เห็นแล้วว่าเป็นโรงไฟฟ้าถ่านหินที่สะอาดเอี่ยม เรี่ยมเร้เรไรจริง ๆ ไม่ต่างจากโรงไฟฟ้าถ่านหินในเยอรมนีเลย ที่โน่นมีเพื่อนบ้านกว่า 2 หมื่นคน ปลูกบ้านประชิดโรงไฟฟ้ากันเลย แถมปลูกต้นไม้ซะสวยงามยังกับบ้านพักตากอากาศเล็ก ๆ ก็ไม่ปาน

นี่ก็คงเป็นข้อพิสูจน์ที่ดีว่า โรงไฟฟ้าถ่านหินสะอาด มีเยอะแยะ เพียงแต่ที่อิโซโกะอยู่ห่างจากบ้านเรือนชาวบ้าน เหมือนอาณาจักรเล็ก ๆ ส่วนตัว อิโซโกะนั้นได้พัฒนาเทคโนโลยีโรงไฟฟ้าถ่านหินมาตั้งแต่ปี 1967 จากหม้อต้มไอน้ำแบบ Sub-Critical stream condition มาเป็นแบบ Super–Critical stream condition และเทคโนโลยีล่าสุดคือ Ultra–Super-Critical (USC) ที่ใช้กันทั่วโลกนั่นล่ะ
เป็นระบบที่ทำให้ประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าสูงขึ้น ใช้เชื้อเพลิงน้อยลง การกำจัดซัลเฟอร์ไดออกไซด์ก็เป็นแบบแห้งหรือ Dry Type(ตั้งแต่ปี 2000) จากเดิมที่เป็นแบบเปียก อย่างที่โรงไฟฟ้าแม่เมาะในอดีตเคยใช้เมื่อปี 2538 นั่นแหละ แต่ปัจจุบันเลิกใช้ไปแล้ว

นี่ก็เป็นอีกข้อพิสูจน์ว่า เทคโนโลยียิ่งก้าวหน้า โรงไฟฟ้าถ่านหิน ก็ยิ่งสะอาด สารพิษขาประจำก็ยิ่งน้อยลงเรื่อย ๆ ไนโตรเจนออกไซด์ (Nox) จาก 159ppm เหลือ 20ppm และ 13ppm ในที่สุด ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (Sox) จาก 60ppm เหลือ 20ppm และ 10ppm ส่วนฝุ่นและเขม่า จาก 50mg เหลือ 10 และ 5mg ต่อ m3n เรียกว่า ปลอดภัยระดับมาตรฐานโลก ส่วนซัลเฟอร์ฯนั้นใส่ปูนขาวเข้าไปก็กลายเป็นยิปซัม เอาไปใช้กับที่อยู่อาศัยได้อีก เช่นยิปซัมบอร์ดไง

โรงไฟฟ้าถ่านหินสะอาด จึงทำได้ มีจริง แทบจะเป็นเรื่อง “ชิลชิล” ไปแล้ว จะหาคนญี่ปุ่นมาต่อต้านเย้ว ๆ แบบเอ็นจีโอไทย นับหัวได้ ก็อย่างว่า ญี่ปุ่นก้าวไปอีกขั้น ใช้นิวเคลียร์แล้ว เพียงแต่ตอนนี้ต้องหยุดชั่วคราว แต่คงไม่วายต้องกลับมาใช้อีก อย่างที่บอก อยู่ที่จะใช้แค่ไหนเท่านั้น ไม่ใช่การปิดตายแน่ ไม่เชื่อก็คอยดูกันต่อไป

อ้าว...ก็เพราะโพลล่าสุด แม้ในฟูกุชิมะเอง ประชาชนกว่า 50% ยังสนับสนุนให้เดินหน้าทำโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ต่อ เพียงต้องเน้นความปลอดภัยให้มากขึ้น ซึ่ง TEPCO เจ้าของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะ ที่ตอนนี้ถูกรัฐบาลญี่ปุ่นเทคโอเวอร์ (ชั่วคราว) ก็ได้แก้ไขจุดอ่อนเตรียมเสนอแผนต่อรัฐบาลอยู่ ไว้ว่ากันตอนหน้า

ดูญี่ปุ่นแล้วย้อนดูไทย อย่างที่รู้ กฟผ. ตอนนี้ใช้ก๊าซผลิตไฟฟ้าเกือบ 70% ที่เหลือคือถ่านหินนำเข้า8% ลิกไนต์ 11% น้ำมันเตา 1% พลังลมกับแสงแดดอีกนิดหน่อย แล้วก็ซื้อไฟจากลาว เทียบกับชาติอื่นแล้ว ไทยอยู่หลังเขา ญี่ปุ่นใช้ถ่านหิน 20% (ก๊าซ 26% นิวเคลียร์ 24% และอื่น ๆ) เกาหลี ก้าวร้าวมาก ใช้ถ่านหิน 43% นิวเคลียร์ 34% ใช้ก๊าซแค่ 18% จีนยิ่งไปกันใหญ่ ใช้ถ่านหิน 79% อเมริกาใช้ถ่านหิน 49% นิวเคลียร์ 19% เดนมาร์กใช้ถ่านหิน 48% ก๊าซ 19% เยอรมนีใช้ถ่านหิน 46% นิวเคลียร์ 23% ก๊าซ 14% ขณะที่ฝรั่งเศสลุยเต็มเหนี่ยว ใช้นิวเคลียร์ 76% โน่น ถ่านหิน 12% ก๊าซจิ๊บจ้อย 4% เท่านั้น

แต่ละชาติน่ะ รวย ๆ ทั้งนั้น ทำไมยอมให้ใช้ถ่านหินผลิตไฟฟ้า พวกนี้โง่หรือ หูหนวกตาบอดหรือ ไม่รักชีวิตหรือ ชอบมลพิษหรือ ตรงข้าม เป็นพวกจอมโวยวาย รักษาสิทธิตนเต็มที่ (ยกเว้นจีน ที่รัฐบาลชี้เป็นชี้ตายได้หมด) การไม่ต่อต้านโรงไฟฟ้าถ่านหิน มันต้องมีเหตุผลดี ๆ สนับสนุนแน่

เพราะโรงไฟฟ้าถ่านหินสะอาดมีจริง ราคาถ่านหินก็ถูกกว่าก๊าซมาก ใช้ได้นานอีกตั้ง 200 ปี อย่างก๊าซในอ่าวไทย อีกไม่เกิน 20 ปีก็หมดแล้ว ราคาก็แพง ก๊าซหน่วยละ 3.20 บาท ถ่านหิน 2.36 บาท ที่เอ็นจีโอให้ใช้ลม ราคาหน่วยละ 5-6 บาท แสงแดด 8-9 บาท และมีความไม่เสถียรทั้ง 2 ชนิด หากเอามาผลิตกระแสไฟฟ้า ราคาค่าไฟจะแพงกว่าตอนนี้กว่าเท่าตัว แล้วรับได้หรือ ถามจริง-จริง??? ถ่านหิน จึงลงตัวสุด ดีสุด โรงไฟฟ้าถ่านหิน จึงควรเป็นทางเลือกดีสุดของคนไทย

เพื่อแก้วิกฤติ...พลังงานไทย.

source : http://www.dailynews.co.th/article/223/115538

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น