วันศุกร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ถกผู้นำอีสต์เอเชีย (2) ‘พลังงาน’ หัวข้อร้อนที่ต้องรู้ลึก!


การประชุม ’เวิลด์ อีโคโนมิค ฟอรัม ออน อีสต์ เอเชีย 2012 (World Economic Forum on East Asia 2012)“ ซึ่งจะมีขึ้นในประเทศไทย ในกรุงเทพฯ ช่วงวันที่ 30 พ.ค.–1 มิ.ย. 2555 โดยจะมีผู้นำประเทศในเอเชียตะวันออก ประกอบด้วย ไทย ลาว พม่า กัมพูชา เวียดนาม สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย บรูไน ฟิลิปปินส์ เกาหลี จีน ญี่ปุ่น และภาคเอกชนระดับโลกที่ลงทุนหรือสนใจจะลงทุนในภูมิภาคเอเชีย มาร่วมประชุมกันนั้น

เวทีประชุมเวทีนี้สำคัญ...คนไทยควรจะสนใจ

และหัวข้อเกี่ยวกับพลังงาน...ก็ยิ่งน่าติดตาม...

ทั้งนี้ ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ระบุถึงการประชุมดังกล่าวนี้ว่า...การประชุมนี้มีความสำคัญ มีประเด็นที่คนไทยควรติดตามและให้ความสนใจ เนื่องจากจะเห็นทิศทางและแนวคิดของประเทศที่เข้าประชุม ต่อกรอบเศรษฐกิจ และพลังงาน ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะใน 3 ปีข้างหน้าที่ประเทศในอาเซียนจะรวมตัวเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

ในส่วนของ ’พลังงาน“ ผู้นำด้านพลังงานของประเทศสมาชิกจะมาร่วมกำหนดกรอบแนวคิดและความร่วมมือ เพื่อปลดล็อกปัญหาต่าง ๆ ที่อาเซียนกำลังเผชิญอยู่ เพื่อให้การใช้พลังงานมีประสิทธิภาพสูงสุด ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด โดยอาจมีการพูดถึงนโยบายชดเชยราคาพลังงานที่กำลังเป็นปัญหาในหลายประเทศ ทั้งด้านที่กระทบต่อสถานะการเงินของประเทศ กระทบต่อประสิทธิภาพการใช้พลังงาน เพราะเมื่อมีการชดเชยราคาก็อาจทำให้มีการใช้พลังงานฟุ่มเฟือย และท้ายสุดก็ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อม และปรากฏการณ์ก๊าซเรือนกระจก

ดร.ไพรินทร์ ระบุว่า...ในอนาคตอันใกล้อุตสาหกรรมพลังงานจะต่างจากปัจจุบัน ซึ่งจากต้นปีถึงขณะนี้ก็มีเหตุการณ์และนโยบายด้านพลังงานเกิดขึ้นในหลาย ประเทศ ชนิดที่เรียกได้ว่า ’จะเกิดการเปลี่ยนแปลงแบบพลิกโฉม“ เช่น ออสเตรเลีย จะเก็บภาษีจากบริษัทที่ก่อมลพิษตั้งแต่ 1 ก.ค. นี้ และรัฐบาลจะตั้งกองทุนพลังงานสะอาด มูลค่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ประมาณ 3 แสนล้านบาท) หนุนการใช้พลังงานทดแทน

ญี่ปุ่น จากประเทศที่ไฟฟ้า 40% ผลิตจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ก็เปลี่ยนโฉมไป เมื่อ เดือน เม.ย. ที่ผ่านมา มีการสั่งปิด 2 เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์สุดท้ายจากที่เคยมีอยู่ 54 โรง นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น เพียง 1 ปีหลังการเกิดสึนามิ

สหรัฐอเมริกา องค์กรควบคุมสิ่งแวดล้อมได้ออกกฎใหม่ควบคุมการปล่อยก๊าซคาร์บอนของโรงไฟฟ้าต่อการผลิตที่คิดเป็น
เมกะวัตต์ชั่วโมง ซึ่งหมายถึงโรงไฟฟ้าถ่านหินที่แม้จะเพิ่งสร้างเสร็จก็อาจต้องปิดตัวลง

เหตุการณ์และนโยบายด้านพลังงานเหล่านี้ เป็นตัวอย่างที่บ่งชี้ว่า ’อุตสาหกรรมพลังงาน“ ถึงเวลาแล้วที่ ’ต้องปรับตัว“ และ ’ต้องใส่ใจกับสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น“ ซึ่งใน ’ประเทศไทยก็เช่นกัน“

สำหรับไทย ดร.ไพรินทร์บอกว่า...สิ่งสำคัญคือคนไทยต้องรู้ว่าวันนี้เราอยู่จุดไหนด้าน พลังงาน? โดยอุตสาหกรรมพลังงานจะมีองค์ประกอบ 3 ด้านคือ...1. จะหาพลังงานมาได้อย่างไร-วิธีไหน??, 2. พลังงานที่หาได้ต้องมีมากพอ ราคาเหมาะสม สามารถสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจ 3. สิ่งแวดล้อม แต่ที่ผ่านมาองค์ประกอบ 3 ด้านนี้เราไม่สามารถสร้างให้สมดุลหรือไปด้วยกันได้ เมื่อดีด้านหนึ่งก็จะกระทบอีก 2 ด้านเสมอ

“นี่คือหนึ่งในเหตุผลที่ ปตท. เป็นเจ้าภาพร่วมจัดงานประชุม เวิลด์ อีโคโนมิค ฟอรัม ภูมิภาคเอเชีย ซึ่งครั้งนี้ จะมีการประชุมแบบเวิร์กช็อปเพื่อหาทางออกทำเป็นข้อเสนอแนะให้กับรัฐบาล เพื่อสร้างสมดุลองค์ประกอบทั้ง 3 ด้านของอุตสาหกรรมพลังงาน และในฐานะที่ ปตท. เป็นหนึ่งในองค์กรพลังงานชั้นนำของภูมิภาค จึงมีหน้าที่ต้องส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนรู้เท่าตามทันถึงโครงสร้างและปัจจัย ด้านพลังงานอย่างแท้จริง”

ดร.ไพรินทร์ ยังระบุอีกว่า...การประชุมครั้งนี้ ปตท. ได้เชิญผู้นำของบริษัทพลังงานแห่งชาติจาก 10 ประเทศสมาชิก ที่วันนี้ได้รวมตัวกันเป็นคณะมนตรีด้านปิโตรเลียมของอาเซียน มาหารือร่วมกัน และในการประชุมครั้งนี้ก็จะมีการถก และจะทำการตกลงกันใน “5 หลักการพลังงานเพื่อสังคมยั่งยืน” ซึ่งประกอบด้วย...

1. การหาพลังงานให้ได้ในราคาที่เหมาะสม ซึ่งเป็นหน้าที่ของผู้ประกอบการพลังงาน

2. ระบบพลังงานที่มีประสิทธิภาพสร้างระบบหรือส่งเสริมให้ใช้พลังงานอย่างมี ประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ดีกว่าการชดเชยหรือพยุงราคา
3. การมีส่วนร่วมรับผิดชอบของผู้ใช้ เพื่อหามิติและทางออกของพลังงานที่ดีกว่าที่เป็นอยู่
4. พลังงานต้องสนับสนุนภาคเศรษฐกิจ สร้างสมดุลระหว่างการสร้างความได้เปรียบเชิงเศรษฐกิจและการใช้พลังงานให้ เกิดประสิทธิภาพ รวมทั้งยกระดับความเป็นอยู่ของผู้คน
5. ส่งเสริมให้ภาคประชาชนเข้าใจและมีความรู้ด้านพลังงาน จากที่แค่รู้สึก แต่ไม่ได้รู้ถึงโครงสร้างและมิติต่าง ๆ ซึ่งอาจทำให้มองประเด็นพลังงานผิด ทำให้เกิดช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่าง ’รู้สึก“ กับ ’เข้าใจ“ ซึ่งต้องส่งเสริมให้รู้และเข้าใจอย่างแท้จริง

เหล่านี้ก็เป็นทิศทางที่จะเกิดขึ้นหลังการประชุม

โดยเฉพาะเรื่อง ’พลังงาน“ ที่เป็น ’หัวข้อร้อน“

’เกี่ยวพันกับชีวิตประจำวัน“ จึง ’ต้องสนใจ!!!“.

source : http://www.dailynews.co.th/article/223/114952


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น