|
|
ชาวพม่าพาช่างภาพดูเครื่องปั่นไฟ 1 ใน 3 เครื่อง
ที่ใช้ผลิตไฟฟ้าให้แก่คนในหมู่บ้านเกือบ 3,000 คน
แม้หมู่บ้านแห่งนี้จะอยู่ใกล้กับเมืองพุกาม
ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในพม่า
แต่โครงข่ายไฟฟ้าของส่วนกลางกลับเข้าไม่ถึง
ทำให้ชาวบ้านต้องหันมาพึ่งพาเครื่องปั่นไฟ หรือแบตเตอรี่รถยนต์แทน.
--REUTERS/Staff. |
|
|
|
พม่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ใช้พลังงานไฟฟ้าน้อยที่สุดในโลกเฉลี่ย
เพียง 104 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมงต่อคน เนื่องจากมีประชากรเพียงร้อยละ 25
ที่เข้าถึงโครงข่ายไฟฟ้า นอกจากนั้น
ค่าไฟของพม่ายังแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ เช่น ในนครย่างกุ้ง
ที่เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของประเทศ ค่าไฟอยู่ที่ 35
จ๊าตต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง แต่ค่าไฟจะปรับสูงขึ้น 12 เท่า ในเมืองซิตตเว
ที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของประเทศ
สำนักงานสถิติแห่งชาติพม่าระบุว่า
ไฟฟ้าพลังงานน้ำเป็นแหล่งพลังงานมากถึงเกือบร้อยละ 70
ของแหล่งผลิตพลังงานในประเทศ
ขณะที่เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติครอบคลุมอยู่ที่ร้อยละ 20
และพลังงานจากถ่านหินอีกร้อยละ 9 ส่วนกำลังการผลิตไฟฟ้าของพม่าในปีงบประมาณ
2554-2555 อยู่ที่ 2,544 เมกะวัตต์ เพิ่มขึ้นจาก 1,717 เมกะวัตต์ เมื่อ 4
ปีก่อน และกระทรวงพลังงานไฟฟ้ายังเปิดเผยว่า
พม่ามีแผนโครงการก่อสร้างแหล่งผลิตพลังงานไฟฟ้า 48 โครงการ
โดยเป็นโครงการเขื่อนไฟฟ้า 45 โครงการ
ที่จะเพิ่มขนาดการผลิตพลังงานในประเทศมากขึ้น 14 เท่า เป็น 36,635
เมกะวัตต์
ในอีกแง่หนึ่ง
พม่าอาจเพิ่มขนาดการผลิตของประเทศด้วยการใช้ประโยชน์มากขึ้นจากแหล่งก๊าซ
ธรรมชาติของประเทศ ที่คาดว่ามีอยู่ราว 11-23 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต ปัจจุบัน
พม่าผลิตก๊าซได้ประมาณ 1,470 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน แต่ส่งออกไปไทยถึง
1,200 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และใช้ภายในประเทศเพียง 270
ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ซึ่งตอบสนองความต้องการภายในประเทศแค่ร้อยละ 48
เท่านั้น ซึ่งถือว่าไม่เพียงพอสำหรับใช้งานภายในประเทศ
และสำหรับภาคเอกชนได้รับส่วนแบ่งก๊าซธรรมชาติเพียงแค่ร้อยละ 1 เท่านั้น
ซึ่งในอนาคตพม่าวางแผนที่จะแบ่งสัดส่วนก๊าซให้แก่ภาคเอกชนมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม
รัฐบาลพม่ายังคงมุ่งมั่นที่จะพึ่งการผลิตไฟฟ้าจากเขื่อนที่จะกลายเป็นแหล่ง
พลังงานหลักสำหรับอนาคต
ซึ่งจะช่วยให้พม่ายังสามารถส่งออกก๊าซธรรมชาติของประเทศไปยังไทยได้ต่อไป
และผ่านท่อส่งก๊าซไปยังจีนตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นไป
ตามนโยบายสำหรับภาคส่วนพลังงานไฟฟ้าคือ
การใช้งานโรงไฟฟ้ากังหันก๊าซเพียงแค่ในระยะสั้น
และหันไปพึ่งพาไฟฟ้าพลังน้ำให้เป็นแหล่งคำคัญของพลังงานอย่างพอเพียง
รวมทั้งความคาดหวังของรัฐบาลพม่าที่จะสามารถตอบสนองความต้องการพลังงานภายใน
ประเทศให้ได้ภายในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
ด้วยความช่วยเหลือจากนักลงทุนต่างชาติ หลังมาตรการคว่ำบาตรถูกยกเลิกลง.
Source : http://manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9550000049892 |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น