วันอังคารที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2555

8 จว.เหนือทัศนวิสัยต่ำ-4 จว.แค่ 1 กม.หมอกควันคลุมมิด-เครื่องเข้าแม่ฮ่องสอนดีเลย์ซ้ำ


สภาพอากาศในตัวเมือง ลำปางขณะนี้ หมอกควันที่ปกคลุมอยู่ เริ่มเปลี่ยนเป็นสีดำมากขึ้น หลังจากก่อนหน้านี้หมอกควันในอากาศจะมองเห็นเป็นสีขาวขุ่น
       ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ปัญหาหมอกควันคลุมพื้นที่ทำทัศนวิสัย 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน เลวร้าย 4 จังหวัด มองเห็นได้ระยะ 1 กม.เท่านั้น ขณะที่ไฟลต์บินเข้าแม่ฮ่องสอนของกานต์แอร์เช้านี้ ต้องดีเลย์ซ้ำ ส่วนนกแอร์เลื่อนไม่มีกำหนด ค่าฝุ่นละอองในอากาศทั้ง 8 จว.ยังเกินมาตรฐาน ด้านผู้ช่วย ผบ.ตร.สั่งตำรวจลำปาง ช่วยป้องกัน-รณรงค์ลดเผาป่าอีกทาง
      
       จากผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือวันนี้ (6 มี.ค.) พบปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง อยู่ระหว่าง 117.7-188.4 ไมโครกรัม/ลบ.ม.8 จังหวัดภาคเหนือ ทั้ง จ.แพร่ เชียงราย พะเยา ลำปาง แม่ฮ่องสอน น่าน เชียงใหม่ และ จ.ลำพูน มีฝุ่นละอองสูงเกินมาตรฐาน 120 ไมโครกรัม/ลบ.ม.ทั้งสิ้น รวมถึงคุณภาพอากาศ (AQI) ก็อยู่ในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ เกินมาตรฐานที่ 100 เช่นกัน
      
       โดยที่ จ.เชียงใหม่ ผลการตรวจวัดระดับฝุ่นละอองรายชั่วโมง เมื่อ 11.00 น.วันนี้ พบว่ามีศาลากลางเชียงใหม่ วัดได้ 153.61 ไมโครกรัม/ลบ.ม., โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย วัดได้ 130.39 ไมโครกรัม/ลบ.ม.
      
       จ.ลำปาง พบว่า ทั้งค่าฝุ่นละออง และคุณภาพอากาศเฉลี่ย 24 ชั่วโมง เกินมาตรฐานทุกสถานีเช่นกัน โดยที่ศาลหลักเมืองลำปาง วัดค่าฝุ่นละอองได้ 167.1 ไมโครกรัม/ลบ.ม., สถานี รพ.สต.สบป้าด อ.แม่เมาะ วัดได้ 172.3 ไมโครกรัม/ลบ.ม., สถานี รพ.สต.ท่าสี อ.แม่เมาะ วัดได้ 174.8 ไมโครกรัม/ลบ.ม.และสถานีการประปาส่วนภูมิภาคแม่เมาะ วัดได้175.1 ไมโครกรัม/ลบ.ม.
      
       อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า ตลอดระยะเวลาที่เกิดปัญหาหมอกควันและไฟป่าในพื้นที่ จ.ลำปาง ค่าฝุ่นละอองที่วัดได้ และเผยแพร่ต่อสาธารณชน ล้วนแต่เป็นข้อมูลจากสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษทั้งสิ้น ขณะที่สถานีตรวจวัดของโรงไฟฟ้าแม่เมาะ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่มีอยู่ 11 สถานี ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลออกมาเท่าใดนัก
      
       ที่ จ.เชียงราย วันนี้ พบว่า ค่าเฉลี่ยฝุ่นละออง 24 ชั่วโมง ลดระดับความรุนแรงลงมา หลังจากที่เคยพุ่งขึ้นสูงสุดกว่า 356 ไมโครกรัม/ลบ.ม. เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยลดลงมาอยู่ที่ 156.1 ไมโครกรัม/ลบ.ม.ในเขต อ.เมือง ส่วนที่ อ.แม่สาย วัดได้ 180.3 ไมโครกรัม/ลบ.ม.
       ส่วนที่ จ.พะเยา สถานีอุทยานการเรียนรู้กว๊านพะเยา วัดค่าฝุ่นละอองได้ 175.1 ไมโครกรัม/ลบ.ม., จ.ลำพูน สถานีสนามกีฬา อบจ.ลำพูน วัดได้ 125.7 ไมโครกรัม/ลบ.ม.และที่เมืองน่าน สถานีตรวจวัดเทศบาลเมืองน่าน วัดได้ 148.4 ไมโครกรัม/ลบ.ม.
      
       ขณะที่ จ.แม่ฮ่องสอน จากการตรวจวัดที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดฯ พบว่า ค่าฝุ่นละออง อยู่ที่ 177.3 ไมโครกรัม/ลบ.ม.
      
       และในวันนี้พบว่า พื้นที่ จ.แพร่ เป็นจังหวัดที่มีค่าฝุ่นละอองในอากาศสูงที่สุดใน 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน โดยที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแพร่ วัดค่าได้ 188.4 ไมโครกรัม/ลบ.ม.
      
       ซึ่งสถานการณ์หมอกควันไฟป่า ที่ยังคงปกคลุมพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบนอยู่นั้น ทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำทุกจังหวัด โดยอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า ณ เวลาประมาณ 07.00 น.วันนี้ 8 จังหวัดภาคเหนือมีทัศนวิสัยอยู่ในระดับ 1-4 กม.โดยเฉพาะ จ.ลำพูน แม่ฮ่องสอน แพร่ และ จ.น่าน มีทัศนวิสัยเพียง 1 กม.เท่านั้น
      
       นางสาวศิริอร รังศิริตานนทร์ ผจก.ห้างหุ้นส่วนแม่ฮ่องสอน ที เอ็น ทัวร์ กล่าวว่า สถานการณ์ควันไฟในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน มีความรุนแรงมาก ทำให้นักท่องเที่ยวไม่เดินทางเข้ามาเที่ยว เพราะควันไฟป่าปกคลุมหายใจไม่สะดวก สายการบินกานต์แอร์ ที่ออกจากท่าอากาศยานเชียงใหม่ เวลา 08.25 น.กำหนดลงสนามบินแม่ฮ่องสอน 09.00 น.ไม่สามารถทำการบินได้ เนื่องจากควันไฟปกคลุมในพื้นที่ ต้องรอจนถึงเวลา 12.15 น.จึงบินได้ ส่วนสายการนกแอร์ เที่ยว 11.35 น.ต้องเลื่อนเวลาทำการบินออกไปอย่างไม่มีกำหนด
      
       สำหรับความพยายามแก้ไขปัญหาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้น จนถึงวันนี้ ก็ยังคงวนเวียนอยู่ที่การรณรงค์งดเผา ไถกลบตอซางข้าว-ข้าวโพด ฉีดละอองน้ำขึ้นฟ้า โดย นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรม “รณรงค์ไถกลบตอซังเพื่อลดโลกร้อน และลดหมอกควันจากการเผาในที่โล่ง” ที่บริเวณแปลงนาข้างโรงปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพบ้านสันกว๊าน ม.8 ต.บ้านตุ่น อ.เมือง จ.พะเยา
      
       พร้อมทั้งขับรถไถรณรงค์ไถกลบตอซังข้าวด้วยตนเอง เพื่อเป็นการรณรงค์และส่งเสริมเกษตรงดเผาตอซังและฟางข้าว และหันมาไถกลบตอซังแทน และแจกจ่ายเมล็ดพันธุ์ปอเทือง ให้กับเกษตรกร ให้นำไปหว่านในนาข้าวเพื่อบำรุงดิน และยังได้ร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการจังหวัด และประชาชน หว่านเมล็ดพันธุ์พืชบำรุงดินลงในแปลงนาด้วย
      
       วันเดียวกัน ที่สถานีตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง พล.ต.ท.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน ผู้ช่วย ผบ.ตร.ได้เดินทางมาตรวจราชการพร้อมมอบนโยบายให้กับข้าราชการตำรวจในสังกัด ภูธรจังหวัดลำปาง หน่วยงานตำรวจในพื้นที่ จว.ลำปาง และตัวแทนภาคประชาชน ร่วม 200 คน
      
       โดยผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้เน้นย้ำกับข้าราชการตำรวจทุก นาย ว่า เนื่องจากในช่วงนี้ทางภาคเหนือกำลังประสบวิกฤตหมอกควัน ดังนั้น จึงได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายได้ดูแลเรื่องการทำลายทรัพยากร ธรรมชาติและป่าไม้ โดยให้เข้าไปมีส่วนร่วมในการป้องกัน ดูแลและช่วยรณรงค์ไม่ให้มีการเผาป่า เกิดขึ้นเพื่อช่วยลดมลพิษ ที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้

Source :  http://manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9550000029542

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น