ในการสำรวจอุณหภูมิอากาศรอบฟาร์มลมที่ใหญ่ที่สุดของ โลก 4 แห่งในรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา ของนักวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยรัฐนิวยอร์ก โดยใช้ข้อมูลจากดาวเทียมระหว่างปี 2546-2554 พบว่าความร้อนเพิ่มขึ้น 0.72 องศาในรอบเพียงสิบปีที่ผ่านมา ขณะที่ตั้งแต่ปี 2453 อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มขึ้น 0.8 องศาเท่านั้น นั่นหมายความว่ายิ่งสร้างฟาร์มลมมากขึ้นเท่าใด จะยิ่งส่งผลกระทบต่ออุณหภูมิโลกในระยะยาวมากขึ้นเท่านั้น โดยฟาร์มขนาดใหญ่จะกระทบต่อรูปแบบของลมและฝนในภูมิภาค
งานวิจัย ดังกล่าวตีพิมพ์ในวารสารเนเจอร์ระบุด้วยว่า การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิเกิดขึ้นจากพลังงานที่ฟาร์มลมปล่อยออกมาและการ เคลื่อนไหว ความปั่นป่วนของบรรยากาศที่ใบพัดกังหันทำให้เกิดขึ้น ความเปลี่ยนแปลงที่ว่านี้ ถ้าฟาร์มมีขนาดใหญ่มากพอจะส่งผลกระทบต่ออากาศและสภาพภูมิอากาศอย่างสังเกต ได้
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าจำเป็นต้องวิจัยเพิ่มเติมอีกเพื่อยืนยันสมมติฐานดังกล่าวให้แน่ชัด
ข้อมูล จากคณะกรรมการพลังงานลมโลกระบุว่าเมื่อปีที่แล้วฟาร์มลมทั่วโลกผลิตกระแส ไฟฟ้าได้ถึง 238 กิกะวัตต์ เพิ่มขึ้นจากปี 2553 ร้อยละ 21 คาดว่ากำลังผลิตจะเพิ่มขึ้นเกือบถึง 500 กิกะวัตต์ ในสิ้นปี 2559
(ที่มา:ข่าวสดรายวัน ฉบับวันที่ 4 พ.ค.2555)
สมมติฐานมั่ว เอามากๆเลยนะครับ มีปัจจัยอย่างอื่นเป็นตัวกำหนดมากมาย ซึ่งที่ยกมากล่าว มีมูลค่าเหตุแค่หยิบมือ โลกร้อนเกิดจากความมักง่ายของคน รถยนต์ แอร์ โรงงาน หรือประเทศที่เจริญ ยิ่งเป็นตัวทำให้เกิดโลกร้อนเสียด้วยซ้ำ
ตอบลบ