วันศุกร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2555

จวก"เพ้ง"เพิ่มความเสี่ยงด้านพลังงาน

นักวิชาการขวางนโยบาย ”เพ้ง” สั่งรับซื้อไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้านเพิ่ม 20,000 เมกะวัตต์ ระบุสวนทางแผนพีดีพี ที่ต้องการลดพึ่งพาไฟฟ้าจากต่างประเทศ ระบุยังสร้างความเสี่ยงด้านความมั่นคงทางพลังงาน ชี้จับตากลุ่มนายทุนฟันผลประโยชน์เข้ากระเป๋า

    นายเดชรัตน์ สุขกำเนิด อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เปิดเผยว่า จากการที่ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน มอบหมายให้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จัดซื้อไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มขึ้นเป็น 20,000 เมกะวัตต์ แบ่งจากพม่า 10,000 เมกะวัตต์ และลาว 10,000 เมกะวัตต์ หรือเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 20% จากเดิมที่แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (พีดีพี) ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 3 (2555-2573) ระบุมีการรับซื้อไม่ให้เกิน 15% หรือประมาณ 8,700 เมกะวัตต์ ถือว่าเป็นเรื่องที่สวนกระแสการจัดทำแผนพีดีพีที่ต้องการลดการรับซื้อไฟจาก ประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อลดความเสี่ยงในการพึ่งพาพลังงานจากนอกประเทศ

    “นโยบายดังกล่าวทำให้เกิดข้อสงสัยอย่างมาก เพราะการปรับปรุงพีดีพีต้องผ่านกระบวนการรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย ว่าเห็นด้วยอย่างไรหรือไม่ ไม่ใช่กำหนดขึ้นมาเองเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับราคาค่าไฟฟ้า และการรับซื้อไฟฟ้าเป็นการรับซื้อจากกลุ่มทุนที่เข้าไปลงทุน ดังนั้นจะเป็นการเอื้อผลประโยชน์กันเองและว่ามองข้ามแผนพีดีพี” นายเดชรัตน์ กล่าว

    นายวิฑูรย์ เพิ่มพงศาเจริญ นักวิชาการอิสระด้านพลังงาน   กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับนโยบายดังกล่าว เพราะการผลักดันให้รับซื้อไฟฟ้าเพิ่มขึ้นครั้งนี้ เป็นความจำเป็นทางธุรกิจเท่านั้น โดยเฉพาะบริษัทลูกของ กฟผ.ที่ไม่มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ผ่านมา ทั้ง บมจ.ผลิตไฟฟ้า (เอ็กโก้) และ บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรี โฮลดิ้ง เนื่องจากหากมีโครงการผลิตไฟฟ้าในประเทศเพื่อนบ้าน จะใช้ 2 บริษัทนี้เข้าไปร่วมทุนกับประเทศนั้นๆ และผลิตไฟฟ้าส่งกลับมาในประเทศ ซึ่งจะได้ประโยชน์เชิงธุรกิจ แต่ผู้บริโภคไม่ได้ประโยชน์อะไร เพราะอัตราไฟฟ้ามีแนวโน้มที่จะสูงขึ้น

    นายพงษ์ศักดิ์กล่าวว่า ในปี 2556 จะมีการปรับแผนพีดีพี  2013 ใหม่ โดยให้นโยบายว่าจะใช้เชื้อเพลิงถ่านหิน และรับซื้อไฟฟ้าพลังน้ำจากเพื่อนบ้านมากขึ้น เพื่อลดต้นทุนค่าไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้น จากต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น  เนื่องจากได้รับรายงานว่า ปลายแผนพีดีพี (ปี 2573) ค่าไฟฟ้าจะปรับตัวสูงขึ้นไปถึงระดับ 5 บาทต่อหน่วย จากปัจจุบันอยู่ที่ 3 บาทต่อหน่วย ดังนั้นการปรับแผนพีดีพีใหม่จะช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงจากก๊าซธรรมชาติลง หันมาใช้ถ่านหินและการรับซื้อไฟฟ้าจากเพื่อนบ้านเพิ่มขึ้น.

source : http://www.thaipost.net/news/041212/66097

1 ความคิดเห็น:

  1. ขออนุญาตฝากลิงค์นะคะ
    คาสิโนออนไลน์ ที่ปลอดภัย โอนเงินรวดเร็ว มั่นคง ถ่ายทอดสดจากสถานที่จริง 
    ฝาก-ถอน ได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง ที่นี่เลยค่ะ
    https://www.111player.com

    ตอบลบ