source : http://www.thainews-online.com/index.php?mo=3&art=42013641
เมื่อเร็ว ๆนี้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
หรือ กฟผ. ได้นำคณะสื่อมวลชนเยี่ยมชมโรงไฟฟ้าของประเทศญี่ปุ่น
ซึ่งเป็นต้นแบบของโรงไฟฟ้าถ่านหินสะอาด และโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
ซึ่งจากการดูงานทำให้รับทราบว่าโรงไฟฟ้าของประเทศญี่ปุ่น
ไม่ว่าจะเป็นโรงไฟฟ้าถ่านหินสะอาด โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ
หรือแม้กระทั่งอย่างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่คนไทยกลัวกันนัก
กลับสามารถอยู่ร่วมกับคนในชุมชนได้อย่างเป็นธรรมชาติ
มีการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันระหว่างโรงไฟฟ้าและชุมชน
โดยเริ่มจากโรงไฟฟ้าถ่านหินสะอาดของบริษัท เจ
พาวเวอร์ หรือ บริษัท พัฒนาพลังงานไฟฟ้า จำกัด (มหาชน)
ซึ่งมีโรงไฟฟ้าในเครืออยู่ประมาณ 67 แห่ง อย่างโรงไฟฟ้าถ่านหิน "มัตซูอุระ"
ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองนางาซากิ มีกำลังการผลิตไฟฟ้ายูนิตละ 1,000 เมกะวัตต์ 2 ยูนิต
รวม 2,000 เมกะวัตต์ เป็นโรงไฟฟ้าถ่านหินแบบเปิด
ที่มีการเทกองถ่านหินในพื้นที่เปิดโล่ง มีเพียงกำแพงกั้นเพียงข้างเดียวเท่านั้น
เพราะแต่ละด้านที่เหลือจะติดกับทะเล ตัวโรงไฟฟ้า
และแนวต้นไม้ที่ปลูกไว้เพื่อดูดซับฝุ่นละออง ที่ดูด้วยตาเปล่าแทบมองไม่เห็น
และถึงแม้ว่าโรงไฟฟ้าแห่งนี้จะมีการกองถ่านหินอยู่บนลานที่เปิดโล่ง
อยู่ใกล้กับชุมชน ที่มีการปลูกข้าว ทำการเกษตร
แต่ผลผลิตของเกษตรกรเหล่านั้นกลับไม่ได้ลดน้อยลงเลย
ในขณะเดียวกันทางโรงไฟฟ้าก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ
มีการบริหารจัดการในเรื่องของการปล่อยมลพิษต่างๆ ทั้ง ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์
,ไนโตรเจนออกไซด์
และฝุ่นขี้เถ้าให้เป็นไปตามมาตรฐานที่รัฐบาลกำหนดและเป็นไปตามข้อตกลงร่วมกันกับชุมชน
ทำให้เกิดความไว้เนื้อเชื่อใจกัน
นอกจากนี้ชุมชนเหล่านี้ยังได้รับผลประโยชน์อย่างเช่น เรื่องค่าไฟฟ้า
หรือการอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ ที่โรงไฟฟ้าได้ทำให้กับชุมชน
ทำให้ชุมชนและโรงไฟฟ้าสามารถอยู่ร่วมกันได้โดยไม่มีปัญหา
นอกจากโรงไฟฟ้าถ่านหินแบบเปิดแล้ว
ยังได้มีการโอกาสไปดูโรงไฟฟ้าถ่านหินแบบปิดด้วย อย่างโรงไฟฟ้าถ่านหิน "อิโซโกะ"
ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองโยโกฮามา ถือเป็นโรงไฟฟ้าถ่านหินที่สะอาดที่สุดในโลก
เป็นโรงไฟฟ้าแบบปิดที่จัดเก็บถ่านหินไว้ในไซโล มีกำลังการผลิต 1,200 เมกะวัตต์
มีการติดตั้งอุปกรณ์เพื่อดักจับมลมีพิษที่มีประสิทธิภาพมากกว่า 99.94%
มีระบบบำบัดน้ำเสียจากกระบวนการผลิต ก่อนปล่อยออกสู่ทะเล
ที่สำคัญตั้งอยู่ใจกลางเมืองที่มีประชาชนอาศัยอยู่หลายแสนคน
ล้อมรอบไปด้วยโรงกลั่นน้ำมัน โรงไฟฟ้า และโรงแยกก๊าซ
แต่กลับเป็นที่ยอมรับจากประชาชนในพื้นที่
พร้อมทั้งยังนำรายได้จากบริษัทมาตั้งเป็นกองทุนเพื่อพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อม
คุณภาพชีวิตของชุมชนรอบโรงไฟฟ้า ทำให้สามารถอยู่กับชุมชนมานานกว่า 30 ปี
ส่วนเรื่องมลภาวะเป็นพิษที่หลายฝ่ายในบ้านเรากังวลว่าหากมีการสร้างโรงไฟฟ้าขึ้น
อาจทำให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม อากาศเป็นพิษ น้ำเป็นพิษ ซึ่งที่นี่ไม่เคยมีปัญหานั้น
เพราทางโรงไฟฟ้ามีการบริหารจัดการที่ดี และทางเทศบาลนครโยโกฮามา
ยังสามารถติดตามตรวจสอบข้อมูลได้ตลอด 24 ชั่วโมง จากระบบออนไลน์ ข้อมูลการผลิตไฟฟ้า
และการปล่อยสารต่างๆ ส่วนเรื่องปัญหาน้ำเป็นพิษ
นี่ยิ่งแล้วใหญ่เห็นได้กับตาตนเองว่ายังมีชาวบ้านแถวนั้นมานั่งตกปลาข้าง
ๆโรงงานเป็นจำนวนมาก จนถึงขั้นเป็นหมู่บ้านชายประมงเลยก็ว่าได้
นั่นคือ ตัวอย่างของโรงไฟฟ้าถ่านหินสะอาด
ส่วนอีกโรงที่ได้มีโอกาสไปเยี่ยมชม คือ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์
ที่ถึงแม้ว่าบ้านเรายังไม่รู้อนาคตว่าจะได้ก่อสร้างหรือไม่
แต่เมื่อได้ไปเห็นของจริง อย่างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ "คาชิวาซากิ คาริวะ"
ที่เมืองฟูกูชิมา ของบริษัทโตเกียว อิเล็กทริค พาวเวอร์ หรือเทปโก
ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ขนาดกำลังการผลิต 8,212
เมกะวัตต์ต่อปี ก็ต้องตะลึง เพราะเป็นอีกโรงที่มีการบริหารจัดการที่ดีมาก
แม้ว่าขณะนี้ต้องหยุดเดินเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ผลิตไฟฟ้าตามนโยบายของรัฐบาลญี่ปุ่นที่สั่งปิดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทั่วประเทศทั้ง
54 โรง
ภายหลังจากเกิดปัญหาที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุคุชิมาจากผลกระทบแผ่นดินไหวเมื่อปี
2554
ทำให้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์คาชิวาซากิ คาริวะ
ต้องเร่งจัดทำแผนป้องกันเหตุการณ์ที่อาจเกิดในอนาคตและอยู่ระหว่างการนำเสนอให้รัฐบาลพิจารณาตามข้อกำหนด
โดยทุ่มงบประมาณกว่า 70,000 ล้านเยน ในการสร้างเขื่อนป้องกันน้ำที่สูงถึง 15 เมตร
ยาวกว่า 1 กิโลเมตร การทำพนังกั้นน้ำ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จ ในเดือนกรกฎาคม 2556
นอกจากนี้ยังเตรียมเครื่องกำเนิดไฟฟ้าโดยใช้รถเคลื่อนที่ มี 2 เซต เซตละ 9 คัน
แต่ละเซตปั่นไฟได้ 4,500 กิ๊กกะวัตต์
มีขีดความสามารถปั่นกระแสไฟฟ้าสำรองได้มากสุดถึง 9,000
กิ๊กกะวัตต์การสร้างอ่างเก็บน้ำ และแท็งก์น้ำมันเชื้อเพลิงขนาด 1.5 แสนลิตร
เป็นต้น
นายกาทูฮิโกะ ฮายาชิ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กร
โรงไฟฟ้านิวเคลียร์คาชิวาซากิ คาริวะ กล่าวว่า โรงไฟฟ้านิวเคลียร์คาชิวาซากิ คาริวะ
แห่งนี้มีทั้งหมด 7 ยูนิต มูลค่าการลงทุนรวม 3 ล้านล้านเยน มีกำลังการผลิตไฟฟ้า
8,212 เมกะวัตต์ ครอบคลุมพื้นที่ 4.2 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่ติดชายฝั่งทะเลระหว่าง
2 หมู่บ้าน คือ คาชิวาซากิ กับ คาริวะ
ซึ่งสามารถประกอบอาชีพเกษตรกรรมและประมงได้ตามปกติ
เพราะการลงทุนได้นำเทคโนโลยีมีความปลอดภัยสูงสุดซึ่งสามารถทนแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวได้ถึง
3 เท่า ขณะที่อุปกรณ์ต่าง ๆ ก็ได้มีการออกแบบให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด
เครื่องจักรจะหยุดทำงานอัตโนมัติหากเกิดความผิดพลาดขึ้นในระบบ
เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้น
จะเห็นได้ว่า
ไม่ว่าจะเป็นโรงไฟฟ้าประเภทใดก็ตามในประเทศญี่ปุ่น การดำเนินงานต่าง ๆ
จะต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่รัฐบาลญี่ปุ่นกำหนด
หรือแม้กระทั่งการทำตามข้อตกลงร่วมกันระหว่างโรงไฟฟ้ากับชุมชนโดยไม่บิดพลิ้ว
ซึ่งจะทำให้โรงไฟฟ้าและชุมชนอยู่ด้วยกันได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น