source : http://www.thainews-online.com/index.php?mo=3&art=621327
เป็นเรื่องธรรมดาของคนทำงานเบื้องหลังที่มักจะไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง
ธุรกิจพลังงานก็เช่นเดียวกัน
ผู้ใช้พลังงานอย่างเรามักจะรู้จักแต่การไฟฟ้าที่จ่ายไฟฟ้าเข้าตามบ้าน โรงผลิตไฟฟ้า
หรือรู้จักแต่สถานีบริการน้ำมันและก๊าซเอ็นจีวีที่เข้าไปใช้บริการเป็นประจำ
มากกว่าบริษัทที่เป็นผู้ขุดเจาะสำรวจและผลิต ซึ่งเป็นผู้จัดหาปิโตรเลียม
ทั้งก๊าซธรรมชาติและน้ำมันตั้งแต่ต้นทาง ดังนั้น
การสื่อสารให้ประชาชนโดยทั่วไปได้เข้าใจถึงการทำธุรกิจของบริษัทที่เข้ามาทำหน้าที่สำรวจและผลิตปิโตรเลียมในประเทศไทยตั้งแต่เมื่อเกือบห้าสิบปีที่แล้ว
จึงเป็นประโยชน์ในแง่ของการสร้างความกระจ่างและนำมาซึ่งความเข้าใจว่าพลังงานในรูปแบบต่างๆ
อาทิ เชื้อเพลิงต่างๆ และไฟฟ้า ซึ่งกว่าร้อยละ 70
ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงในการผลิต
ที่พวกเราได้ใช้กันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันนั้น มาจากฝีมือของบริษัทนักสำรวจเหล่านี้
บริษัท
เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด
คือบริษัทแรกที่ผลิตก๊าซธรรมชาติเชิงพาณิชย์ได้จากอ่าวไทย
นอกจากนี้ยังมีบริษัทที่ทำธุรกิจด้านสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในประเทศไทยอีกหลายราย
ได้แก่ ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม มิตซุยออยล์ เอ็กซโปลเรชั่น เพิร์ลออยล์
และเฮสส์ (ไทยแลนด์) เป็นต้น และเมื่อเอ่ยถึงบริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต
จำกัด
ต้องยอมรับว่าเป็นบริษัทที่มีบทบาทต่อการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในประเทศไทยเป็นอย่างมากมาเกือบครึ่งศตวรรษแล้ว
เรามาทำความรู้จักกับผู้จัดหาปิโตรเลียมรายใหญ่ของประเทศกันดีกว่าครับ
บริษัท
เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด เป็นบริษัทลูกของเชฟรอนคอร์ปอเรชั่น
ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองซานราโมน มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา
เป็นบริษัทที่มีประวัติยาวนานมากกว่าศตวรรษ
และเป็นหนึ่งในบริษัทพลังงานครบวงจรชั้นนำระดับโลก
ปัจจุบันเชฟรอนดำเนินธุรกิจในประเทศต่างๆ กว่า 100 ประเทศทั่วโลก
ตั้งแต่การสำรวจและผลิตรวมทั้งการขนส่งก๊าซธรรมชาติและน้ำมันดิบ โรงกลั่นน้ำมัน
การตลาดและการขนส่งเชื้อเพลิงยานพาหนะและผลิตภัณฑ์
พลังงานรวมทั้งบริการที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ผู้ผลิตและจำหน่ายเคมีภัณฑ์
ธุรกิจผลิตไฟฟ้า
ผู้ผลิตพลังงานใต้พื้นพิภพและพัฒนาแหล่งพลังงานอนาคตรวมทั้งพลังงานชีวภาพและพลังงานทดแทนอื่นๆ
สำหรับบริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด นั้น
เป็นผู้บุกเบิกการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในอ่าวไทยมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2505
ปัจจุบันมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงเทพมหานครและมีสำนักงานสาขาตั้งอยู่ที่จังหวัดสงขลา
จังหวัดชลบุรี และจังหวัดนครศรีธรรมราช
ปัจจุบัน
เชฟรอนสามารถผลิตได้ทั้งก๊าซธรรมชาติ น้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติเหลว
โดยก๊าซธรรมชาติที่เชฟรอนผลิตได้ในประเทศไทยสามารถตอบสนองความต้องการการใช้กระแสไฟฟ้าได้ถึง
1 ใน 3 ของปริมาณความต้องการทั้งหมด โดยก๊าซธรรมชาติที่ผลิตได้มากกว่าร้อยละ 70
นำไปใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า ส่วนที่เหลือนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงในโรงงานอุตสาหกรรม
เชื้อเพลิงยานพาหนะ ก๊าซหุงต้ม และวัตถุดิบในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี
ทั้งนี้ก๊าซธรรมชาติที่ผลิตได้ทั้งหมดส่งให้กับบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
ซึ่งปตท.จะส่งก๊าซผ่านท่อใต้ทะเลไปยังโรงแยกก๊าซธรรมชาติของปตท.
ที่จังหวัดระยองและนครศรีธรรมราช เพื่อเข้าสู่กระบวนการต่อไป
ส่วนน้ำมันดิบส่วนใหญ่จำหน่ายภายในประเทศและที่เหลือส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ
ธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมที่คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยคุ้นเคย
นับเป็นธุรกิจที่มีความสำคัญต่อวงการพลังงานและอุตสาหกรรมและการขนส่งของประเทศ
ถึงบรรทัดนี้แล้วคุณผู้อ่านที่ต้องขับรถทั้งที่ใช้น้ำมันและก๊าซเอ็นจีวี
ตื่นเช้าขึ้นมาและกลับมาบ้านต้องเปิดไฟฟ้าให้แสงสว่าง
จะทำอาหารต้องใช้เชื้อเพลิงจากก๊าซแอลพีจีหรือก๊าซหุงต้ม
คงจะรู้จักผู้อยู่เบื้องหลังความสะดวกสบายเหล่านี้ อย่างบริษัท
เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด กันมากขึ้นนะครับ
ข้อมูลอ้างอิง ;
จากกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น