วันจันทร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2556

อินเดีย กับการปฏิวัติด้านพลังงานทดแทน

Coal mine, Asansol, India (Photograph by Partha Sarathi Sahana/Flickr)  
Source: http://www.seub.or.th/index.php?option=com_content&view=article&id=1060:seubnews&catid=5:2009-10-07-10-58-20&Itemid=14

ร้อยละ 76 ของโรงไฟฟ้าถ่านหินที่จะสร้างในอนาคต รวมทั้งการเติบโตร้อยละ 90 ของความต้องการถ่านหินของโลกในปี 2016 เกิดขึ้นจากยักษ์ใหญ่แห่งพลังงานถ่านหิน 2 ประเทศคือจีนและอินเดีย ในขณะที่ประชากรภายในประเทศของอินเดียมีแนวโน้มสูงขึ้นและอาจสูงกว่าประเทศจีนในไม่ช้า ข้อเท็จจริงหนึ่งที่น่าแปลกใจคือกว่า 1 ใน 4 ของประชาชนภายในประเทศยังไม่มีไฟฟ้าใช้


พลังงานไฟฟ้าในอินเดียยังคงผลิตโดยใช้ถ่านหินเป็นหลัก ซึ่งถ่านหินที่มีมากมายในอินเดียนั้นเริ่มเกิดปัญหาด้านการขนส่ง ส่งผลถึงต้นทุนของถ่านหินที่มีแนวโน้มสูงขึ้นจนต้องพึ่งพาการนำเข้าถ่านหิน และกำลังจะเปลี่ยนสถานะเป็น ‘ผู้นำเข้า’ ถ่านหินเช่นเดียวกับประเทศจีนเมื่อปี 2009 ที่ผ่านมา แน่นอนว่าอุปสงค์ถ่านหินที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้ประเทศมหาอำนาจทางถ่านหิน 6 ประเทศที่ผลิตถ่านหินส่งออกคิดเป็นร้อยละ 80 ของถ่านหินทั่วโลก ได้โอกาสขึ้นราคา การนำเข้าถ่านหินที่เพิ่มขึ้นและค่าเงินอินเดียที่อ่อนตัวลงย่อมส่งผลต่อภาพรวมทางเศรษฐกิจจนโครงการผลิตไฟฟ้าถ่านหินหลายโครงการเริ่มประสบปัญหาทางการเงิน

การคาดการณ์ว่าราคาถ่านหินอาจสูงขึ้น 2 – 3 เท่าสร้างแรงกดดันอย่างมากให้กับบริษัทผู้ดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าถ่านหินขนาด 4GW ซึ่งเป็นโรงงานถ่านหินที่มีกำลังผลิตสูงที่สุดในโลก หลายโรงงานเริ่มไม่สามารถจัดหาถ่านหินมาผลิตไฟฟ้าได้ จนเกิดภาวะขาดแคลนไฟฟ้า ในขณะที่รัฐบาลยังคงไม่ต้องการเพิ่มราคาไฟฟ้า กระทั่งปลายปี 2011 บริษัทจัดหาเงินทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Development Finance Company) ได้ยุติการปล่อยสินเชื่อสำหรับการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเพิ่มเติม และในเดือนกุมภาพันธ์ 2012 ธนาคารกลางของอินเดียได้ปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ธนาคารที่ประสบปัญหาจากการปล่อยสินเชื่อโรงไฟฟ้าถ่านหิน ต่อมา Tata Power บริษัทผู้ครอบครองโรงไฟฟ้าถ่านหินขนาดยักษ์ได้ประกาศเปลี่ยนแผนการพัฒนาจากโรงงานถ่านหิน สู่พลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์แทน

ขณะที่ความต้องการไฟฟ้ามีสูงขึ้น อินเดียเริ่มประสบปัญหาด้านพลังงานที่เริ่มขาดแคลน รวมทั้งการเพิ่มขึ้นของต้นทุน จนผู้นำด้านการผลิตไฟฟ้าของอินเดียบางรายเลือกมุ่งไปที่การสร้างประสิทธิภาพสูงสุดในการผลิตไฟฟ้า สนับสนุนพลังงานหมุนเวียน รวมทั้งริเริ่มโครงการผลิตไฟฟ้าขนาดเล็ก

อินเดียถือเป็นตลาดอันดับ 3 ของพลังงานลม และปัจจุบันได้ติดตั้งโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่มีกำลังการผลิตสูงราว 4 เท่าของกำลังการผลิตจากโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ภายในประเทศ พร้อมทั้งเพิ่มกำลังผลิตจากพลังงานแสงอาทิตย์อีก 1 GW ในปี 2012 ซึ่งอินเดียนั้นมีโอกาสอย่างมากเนื่องจากยังไม่มีการสร้างโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เช่นโครงการของบริษัท Infosys ที่จะสร้างสำนักงานใหม่ที่ใช้พลังงานลดลง 70 เปอร์เซ็นต์ใน Bangalore ซึ่งได้รับความสนใจจากทั่วโลก ทั้งหมดนี้เกิดมาจากความร่วมมือรหว่างภาครัฐบาลและภาคเอกชนที่มุ่งปฏิวัติพลังงานในอินเดียและนำไปสู่การขับเคลื่อนธุรกิจ

ภาพประกอบ : เหมืองแร่ในกรุง Asansol ประเทศ India ภาพถ่ายโดย Partha Sarathi Sahana


1 ความคิดเห็น:

  1. ขออนุญาตฝากลิงค์นะคะ
    คาสิโนออนไลน์ของเรา ท่านสมาชิกสามารถเปิดบัญชีกับเราเริ่มต้นครั้งแรกที่ 500 บาทขึ้นไป
    ถ่ายทอดสดจากสถานที่จริง โต๊ะจริง ภายในคาสิโน สดจริงวินาทีต่อวินาที ทุกวัน ที่นี่เลยค่ะ
    https://www.111player.com

    ตอบลบ