1.ทวีปที่ใหญ่ที่สุดในโลก - ทวีปเอเซีย
2.ทวีปที่เล็กที่สุดในโลก - ทวีปออสเตรเลีย
3.คาบสมุทรที่ใหญ่ที่สุดในโลก - คาบสมุทรอาหรับ
4.มหาสมุทรที่ใหญ่ที่สุดในโลก - มหาสมุทรแปซิฟิก
5.มหาสมุทรที่เล็กที่สุดในโลก - มหาสมุทรแอนตาร์กติก
6.ทะเลที่ใหญ่ที่สุดในโลก - ทะเลจีนใต้
7.ทะเลส่วนที่ลึกที่สุดในโลก - บริเวณChallenger ใกล้เกาะมาเรียนา ในมหาสมุทรแปซิฟิก
8.ทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในโลก - ทะเลสาบสุพีเรีย อยู่ระหว่างสหรัฐอเมริกา
กับแคนาดา
9.ทะเลสาบน้ำเค็มที่ใหญ่ที่สุดในโลก - ทะเลสาบแคสเปียน อยู่ระหว่างทางใต้ของรัสเซียกับอิหร่าน
10.ทะเลสาบที่มีน้ำเค็มที่สุดในโลก - ทะเลสาบเดดซี อยู่ระหว่างอิสราเอลกับจอร์แดน
11.ทะเลสาบน้ำจืดที่ลึกที่สุดในโลก - ทะเลสาบไบคาล ในไซบีเรีย ประเทศรัสเซีย
12.ทะเลสาบที่ตั้งอยู่สูงที่สุดในโลก - ทะเลสาบกัลลาเซียล ในธิเบต
13.ทะเลสาบที่มนุษย์สร้างขึ้นที่ใหญ่ที่สุดในโลก - ทะเลสาบมืด เหนือเขื่อนระหว่างรัฐเนวาดากับอริโซนา
14.อ่าวที่ใหญ่ที่สุดในโลก - อ่าวเม็กซิโก
15.ปากแม่น้ำที่กว้างที่สุดในโลก - ปากแม่น้ำออฟเฟน โพรเซ็น อ๊อป ประเทศรัสเซีย
16.แม่น้ำที่ยาวที่สุดในโลก - แม่น้ำไนล์ ทวีปแอฟริกา
17.แม่น้ำที่สั้นที่สุดในโลก - แม่น้ำดี ริเวอร์ รัฐโอเรกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา
18.แม่น้ำที่กว้างที่กว้างที่สุดในโลก - แม่น้ำอเมซอน ทวีปอเมริกาใต้
19.แม่น้ำที่เกิดอุทกภัยมากที่สุดในโลก - แม่น้ำฮวงโหหรือแม่น้ำวิปโยค ประเทศจีน
20.คลองธรรมชาติที่ยาวที่สุดโลก - คลองยุ่นโห ประเทศจีน
21.คลองที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจมากที่สุดในโลก - คลองสุเอช
22.หมู่เกาะที่มีเกาะต่างๆอยู่หนาแน่นที่สุด - หมู่เกาะอินดีส
23.ช่องแคบที่ยาวที่สุดในโลก - ช่องแคบตาต้า
24.เกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลก - เกาะกรีนแลนด์ มหาสมุทรอาร์คติค
25.ยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก - ยอดเขาเอเวอเรสต์
26.เทือกเขาที่ยาวที่สุดในโลก - เทือกเขาแอนดีส ทวีปอเมริกาใต้
27.ช่องแคบระหว่างภูเขาที่ใหญ่ที่สุดในโลก - ช่องแคบบนแกรนด์ แคนยอน รัฐอริโซน่า
ประเทศสหรัฐอเมริกา
28.ยอดภูเขาไฟที่สวยและสูงที่สุดในโลก - ภูเขาไฟฟูจิยามา ประเทศญี่ปุ่น
29.ทะเลทรายที่ใหญ่และร้อนที่สุด - ทะเลทรายซาฮาร่า ในแอฟริกาเหนือ
30.น้ำตกที่มีทัศนียภาพสวยงามและใหญ่ที่สุดในโลก - น้ำตกไนแองการา อยู่ระหว่างสหรัฐอเมริกา
และแคนาดา
31.น้ำตกที่สูงที่สุดในโลก - น้ำตกแองเจิล ประเทศเวเนซูเอลา
32.ประเทศที่มีเนื้อที่มากที่สุดในโลก - ประเทศรัสเซีย
33.ประเทศที่เล็กที่สุดในโลก - นครรัฐวาติกัน
34.ประเทศที่มีพลเมืองมากที่สุด - ประเทศจีน
35.เมืองที่มีพลเมืองมากที่สุด - โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
36.ประเทศที่มีพลเมืองน้อยที่สุด - นครรัฐวาติกัน
37.ประเทศที่มีเกาะมากที่สุด - ฟิลิปปินส์
38.ประเทศที่มีทะเลสาบมากที่สุด - ฟินแลนด์
39.ประเทศที่มีภูเขาไฟมากที่สุด - อินโดนีเซีย
40.ประเทศที่อยู่สูงที่สุด - ธิเบต
41.ประเทศที่มีพื้นที่ต่ำที่สุด - อิสราเอล
42.ประเทศที่มีแผ่นดินไหวบ่อยที่สุด - ประเทศญี่ปุ่น
43.ประเทศที่มีภาษามากที่สุด - ประเทศอินเดีย
44.ประเทศที่มีเมืองขึ้นมากที่สุด - อังกฤษ
45.เมืองที่มีคลองมากที่สุด - เวนิส ประเทศอิตาลี
46.ประเทศที่ขุดแร่ดีบุกมากที่สุด - มาเลเซีย
47.ประเทศที่ปลูกกาแฟมากที่สุด - บราซิล
48.ประเทศที่ผลิตกระดาษมากที่สุด - แคนาดา
49.ประเทศที่ขุดเพชรได้มากที่สุด - สหภาพแอฟริกาใต้
50.ประเทศที่มีแร่เงินมากที่สุด - เม็กซิโก 51.ประเทศที่มียางพารามากที่สุด - มาเลเซีย
52.ประเทศที่มีทับทิมมากที่สุด - พม่า
53.ประเทศที่มีทองคำขาวมากที่สุด - สหภาพโซเวียตรัสเซีย
54.ประเทศที่มีแร่พลวงมากที่สุด - สาธารณรัฐประชาชนจีน
55.ประเทศที่ขุดสินแร่อลูมิเนียมได้มากที่สุด - สวิสเซอร์แลนด์
56.ประเทศที่ผลิตหินอ่อนมากที่สุด - อิตาลี
57.ประเทศที่ผลิตแร่ปรอทได้มากที่สุด - สเปน
58.ประเทศที่มีถ่านหินมากที่สุด - สหรัฐอเมริกา
59.ประเทศที่มีแมงกานีสมากที่สุด - อินเดีย
60.ประเทศที่ประดิษฐ์และส่งดาวเทียมประเทศแรก - สหภาพโซเวียตรัสเซีย
61.ประเทศที่ส่งมนุษย์อวกาศไปดวงจันทร์ได้สำเร็จประเทศแรก - สหรัฐอเมริกา
62.ประเทศที่จับปลาได้มากที่สุดในโลก - ญี่ปุ่น
63.ประเทศที่มีฟยอร์ดมากที่สุดในโลก - นอร์เวย์
64.ประเทศที่ผลิตเหล้าองุ่นมากที่สุด -ฝรั่งเศส 65.ประเทศที่ผลิตเบียร์มากที่สุด
- เยอรมนี
66.ประเทศที่ปลูกอ้อยมากที่สุด - คิวบา
67.ประเทศที่มีต้นควินินมากที่สุด - อินโดนีเซีย
68.ประเทศที่ปลูกข้าวสาลีมากที่สุด - รัสเซีย
69.ประเทศที่ปลูกชามากที่สุด - สาธารณรัฐประชาชนจีน
70.ประเทศที่ปลูกฝ้ายมากที่สุด - สหรัฐอเมริกา
71.ประเทศที่มีข้าวเจ้าพันธุ์ดีที่สุด - ไทย
72.ประเทศที่มีแร่เหล็กมากที่สุด - สวีเดน
73.ประเทศที่เลี้ยงไหมมากที่สุด - จีน
74.ประเทศที่ผลิตนมมากที่สุด - สวิสเซอร์แลนด์
75.ประเทศที่ปลูกสับปะรดมากที่สุด - เกาะฮาวาย สหรัฐอเมริกา
76.ประเทศที่ปลูกส้มมากที่สุด - รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
77.ประเทศที่ผลิตพรมได้มากและคุณภาพดีที่สุด - เปอร์เซีย
78.ประเทศที่ขุดน้ำมันดิบส่งออกมากที่สุด - ซาอุดิอาระเบีย
79.ชาติที่ประดิษฐ์เข็มทิศใช้ในการเดินเรือเป็นชาติแรก - จีน
80.บัตรอวยพรอะไรที่มีเป็นอย่างแรก - บัตรอวยพรวันวาเลนไทน์
81.ศาสนาที่มีคนนับถือมากที่สุด - ศาสนาคริสต์
82.ศาสนาที่เก่าแก่ที่สุด - ศาสนาฮินดู
83.กำแพงที่ยาวที่สุด - กำแพงเมืองจีน
84.วัดที่ใหญ่ที่สุดในโลก - นครวัต ประเทศกัมพูชา
85.โรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก - โรงแรมลาสเวกัส ฮิลตัน รัฐเนวาดา สหรัฐอเมริกา
86.ตึกที่สูงที่สุดในโลก - ตึกเซียส์ ที่ชิกาโก สหรัฐอเมริกา
87.ป่าที่ใหญ่ที่สุด - ป่ามหาวัน ประเทศอินเดีย
88.สะพานที่ยาวที่สุด - สะพานเซคอนด์ เลค พอนซาเทรน คอสเวย์ อยู่ที่ลอสแองเจลลิส
สหรัฐอเมริกา
89.สะพานที่กว้างที่สุด - สะพานซิดนีย์ ฮาร์เบอร์ บริดจ์
90.สะพานแขวนที่ยาวที่สุด - สะพานพระราม9 กรุงเทพมหานคร
91.ทางรถไฟที่ยาวที่สุด - ทรานส์ไซบีเรีย
92.อุโมงค์รถไฟที่ยาวที่สุด - อุโมงค์ซิมพลอน
93.สถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุด - สถานีแกรนด์ เซนทรัล เทอร์มินอล
94.ถนนที่ยาวที่สุด - ถนนแพน-อเมริกัน ไฮเวย์
95.เครื่องบินโดยสารที่ใหญ่ที่สุด - แอร์บัส เอ 380-800 จุคนได้กว่า 500 คน
96.เรือเดินสมุทรที่ใหญ่ที่สุด - เรือควีน อลิซาเบธ
97.เรือบรรทุกน้ำมันที่ใหญ่ที่สุด - เรือซีวีส ไจเอ้น
98.ป่าที่ทึบที่สุดในโลก - ป่าเซลวาส ลุ่มแม่น้ำอเมซอน
99.ต้นไม้ที่ใหญ่ที่สุด - ต้นซานตา มาเรีย เด็ล ตูลี ในเม็กซิโก
100.ต้นไม้ที่อายุยืนที่สุดในโลก - ต้นสนPinus longaeva รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
101.ดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก - Arnold 's Rafflesia เกาะสุมาตรา
102.ปิรามิดที่ใหญ่ที่สุดในโลก - ปิรามิดQuetzalcoatl 103.คุกที่แข็งแรงที่สุด
- คุกอัลคาตราส ในซานฟรานซิสโก 104.จัตุรัสที่ใหญ่ที่สุด - จตุรัสเทียนอันเหมิง
ปักกิ่ง 105.สิ่งก่อสร้างที่สวยงามที่สุด - สุสานหินอ่อนทัชมาฮาล เมืองอักรา ประเทศอินเดีย
106.ประเทศที่มีชื่อเสียงในการทำนาฬิกา - สวิสเซอร์แลนด์
107.ระฆังใบใหญ่ที่สุด - ระฆังซาร์โคโลโคล อยู่ที่ปราสาทอิวานเวลิกี้ พระราชวังเครมลิน
มอสโคว สหภาพโซเวียต
108.เพชรเม็ดใหญ่ที่สุดในโลก - เพชรคุลลินาน
109.หอสมุดที่ใหญ่ที่สุดในโลก - หอสมุดรัฐสภาอเมริกัน ในกรุงวอชิงตัน
110.นาฬิกาเรือนใหญ่ที่สุดในโลก - นาฬิกาบิกเบน กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
111.ดาวเคราะห์ที่อยู่ใกล้โลกมากที่สุด - ดาวศุกร์
112.ดาวฤกษ์ดวงไหนมีแสงสว่างมากที่สุด - ดาวซิริอัส(Sirius) มีสีเขียวแกมน้ำเงิน
113.นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรก - นางศิริมาโว บันดาราไนยเก ประเทศศรีลังกา
114.มนุษย์อวกาศคนแรกของโลก - ยูริ กาการิน ชาวรัสเซีย
115.มนุษย์อวกาศหญิงคนแรกของโลก - วาเลนตินา วลาดิมิโรฟนา เทเรสโกวา ชาวรัสเซีย
116.ผู้ที่เดินเรือรอบโลกเป็นคนแรก - แม็คเจลแลน
117.สัตว์ที่มีจำนวนมากที่สุด - แมลง
118.สัตว์ที่มีอายุยืนที่สุด - เต่าทะเล
119.สัตว์บกที่มีขนาดใหญ่ที่สุด - ช้าง
120.สัตว์น้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุด - ปลาวาฬ
121.นกที่มีขนาดใหญ่ที่สุด - นกกระจอกเทศ
122.สัตว์ที่มีเสียงดังที่สุด - ปลาวาฬสีน้ำเงิน
123.สัตว์ที่เคลื่อนที่ได้เร็วที่สุด - เหยี่ยวฟิรีกริน
124.สัตว์ที่เคลื่อนที่ได้ช้าที่สุด - ปู ในบริเวณทะเลแดง
125.นกที่มีอายุยืนที่สุด - กา
126.นกที่ตัวเล็กที่สุด - นกฮัมมิ่ง
127.นกที่บินเร็วที่สุด - นกอินทรี
128.นกที่มองได้ไกลที่สุด - เหยี่ยว
129.นกที่ตาไวที่สุด - แร้ง
130.สัตว์ที่สายตาสั้นและดุร้ายที่สุด - แรด
131.ปลาที่ร้ายกาจที่สุด - ปิรันยา
132.ไก่ที่ไข่ดกที่สุด - ไก่พันธุ์เล็กฮอร์น
133.ธาตุที่เบาที่สุด - ธาตุไฮโดรเจน
134. เนื้อที่ : ประเทศรัสเซีย เป็นประเทศที่มี เนื้อที่มากที่สุดในโลก ประมาณ
17,075,400 ตารางกิโลเมตร เนื้อที่น้อยที่สุด คือ นครรัฐ วาติกัน มี เพียง 0.44
ตารางกิโลเมตร
135. ระดับความสูงของที่ตั้งประเทศ :ประเทศธิเบตเป็นประเทศ ที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลมากที่สุดในโลก
คือ สูงกว่า ระดับน้ำทะเล 12,087 ฟุต (3,626.1 เมตร)
ส่วนประเทศที่ตั้งอยู่ต่ำ ที่สุด คือ ประเทศอิสราเอลบริเวณทะเล Death Sea ซึ่งต่ำกว่าระดับ
น้ำทะเล 1,292 ฟุต (387.60 เมตร)
136. พรมแดนของประเทศ : ประเทศจีนมีพรมแดน ติดต่อกับ ประเทศเพื่อนบ้านมากที่สุดในโลกถึง
14 ประเทศ ส่วนพรมแดน รอยต่อประเทศที่ยาวที่สุดในโลก คือ พรมแดนระหว่างประเทศ สหรัฐอเมริกากับประเทศแคนาดา
ที่ยาวถึง 3,987 ไมล์ หรือ ประมาณ 6,379 กิโลเมตร ส่วนพรมแดนที่สั้นที่สุดคือ พรมแดน
ของประเทศอิตาลีกับนครรัฐวาติกัน ที่ยาวเพียง 2.53 ไมล์ หรือ ประมาณ 4.05 กิโลเมตรเท่านั้น
137. จำนวนประชากร : ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีประชากร มากที่สุดในโลก ราว 1,178.5
ล้านคน 5. อัตราการเกิด : ประเทศมาลาวี ทวีปแอฟริกา เป็นประเทศ ที่มีอัตราการเกิดมากที่สุด
คือ ร้อยละ 5.5 ส่วนนครรัฐวาติกัน มี อัตราการเกิดน้อยที่สุด คือ มีอัตราการเกิดเป็น
0
138. อัตราการตาย : ประเทศอัฟกานิสถาน เป็นประเทศที่มีอัตรา การตายมากที่สุดคือ
ร้อยละ 2.2 ส่วนคูเวตมีอัตราการการตายต่ำ สุด เพียงร้อยละ 0.2 เท่านั้น
139. อายุเฉลี่ย : ประเทศที่จัดว่ามีประชากรอายุยืนที่สุด คือ ญี่ปุ่น ซึ่งมีอายุเฉลี่ย
ชาย 76 ปี หญิง 82 ปี ส่วนประเทศที่ประชากรมี อายุเฉลี่ยต่ำสุด ได้แก่ ประเทศ เซียร์ราลีโอน
เฉลี่ยชาย 41 ปี เฉลี่ยหญิง 45 ปี
140. ภาษาพูด : ประเทศอินเดียครองความเป็นเจ้าแห่งภาษา คือ มีภาษาพูดมากกว่า 840
ภาษา
141. เกาะ : ประเทศอินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีเกาะมากที่สุด ในโลก คือ ประมาณ 13,000
เกาะ
วันพุธที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2553
ที่สุดของโลก
จาก วิชาการ.คอม (www.vcharkarn.com)
ต้นไม้ดูดสารพิษได้อย่างไร?
ต้นไม้ดูดสารพิษได้อย่างไร?
จาก(http://www.milliontreesforking.com)
ดร.บีซี วูฟเวอร์ตัน นักวิทยาศาสตร์ประจำสถาบันวิจัยอวกาศองค์การนาซาของอเมริกาได้ทำวิจัยมากว่า 25 ปี ค้นพบถึงประสิทธิภาพของการกำจัดสารพิษหรือมลภาวะในอากาศของไม้ประดับ และได้เขียนหนังสือเรื่อง Eco-Friendly House Plant แนะนำไม้ประดับที่มีความสามารถดูดไอพิษจากอากาศเช่น สารพิษ ฟอร์มาดิไฮด์ แอมโมเนีย ไซลีน ทูลีน ฯลฯ จำนวนถึง 50 ชนิดจาก(http://www.milliontreesforking.com)
ธรรมชาติสร้างให้ไม้ประดับเล็กๆ มีความสามารถดึงดูดจุลินทรีย์ให้มาอยู่บนหรือรอบๆรากของมันซึ่งมีความย่อยสลายโครงสร้างอินทรีย์สารที่ซับซ้อนได้ใบของต้นไม้ยังสามารถดูดซับสารอินทรีย์ที่เป็นแก๊สและย่อยหรือถ่ายโอนของเสียไปยังรากเพื่อใช้เป็นอาหารสำหรับจุลินทรีย์ เหตุนี้เองทำให้ไม้ประดับสามารถดูดสารพิษ ได้อีกทั้งกระบวนการ “คายน้ำ”ก็เป็นอีกวิธีที่พืชใช้เคลื่อนย้ายสารที่เป็นมลพิษ ไปยังจุลินทรีย์ที่อยู่รอบๆรากของมันกระบวนการคายน้ำต้องใช้กระแสความร้อน ทำให้เกิดการไหลเวียนของอากาศในขณะที่น้ำไหลจากรากขึ้นไปยังส่วนต่างๆ ของพืชอย่างรวดเร็วอากาศจะถูกดึงลงไปสู่ดินรอบๆรากก๊าซออกซิเจนและก๊าซ ไนโตรเจนในอากาศเมื่อถูกดึงไปอยู่ที่รากก๊าซไนโตรเจนจะถูกเปลี่ยนไปโดย จุลินทรีย์เป็นไนเตรทกลายเป็นอาหารของพืชกระบวนการคายน้ำและสังเคราะห์อาหารได้เองของพืชจำพวกไม้ประดับนี่เองที่ดูดสารพิษ
นั่นก็เพราะต้นไม้โดยเฉพาะจำพวกที่อยู่ในตระกูลไม้ประดับ เป็นพืชที่มีการปรับตัว และเติบโตได้ดีในที่ที่มีแสงน้อย และสามารถดูดสารพิษด้วยกรรมวิธีการคายน้ำ โดยจะทำการดูดก๊าซพิษที่อยู่รอบๆ ลงสู่ดินและจุลินทรีย์ที่อยู่รอบๆ รากจะเป็น ตัวเปลี่ยนให้สารพิษเหล่านั้นกลายไปเป็นอาหารของพืชนั่นเอง
ต้นไม้ช่วยลดโลกร้อนได้อย่างไร?
ต้นไม้ช่วยลดโลกร้อนได้อย่างไร?
(จาก http://www.forest.go.th/nursery/demo/tree.htm)
(จาก http://www.forest.go.th/nursery/demo/tree.htm)
เมื่อต้นไม้คายน้ำระหว่างการสังเคราะห์แสงมันจะดูดความร้อนจากอากาศโดยรอบ ต้นไม้ใหญ่ที่คลุมเต็มเนื้อที่ประมาณ 60 ตารางวา จะดูดความร้อนคิดเป็นค่าประมาณ 1,200,000 กิโลกรัมต่อแคลอรี่ต่อวัน ซึ่งเทียบเท่ากับเครื่องปรับอากาศสำหรับบ้านขนาดกลาง 2 หลัง เปิดใช้วันละ 12 ชั่วโมง
ต้นไม้ใหญ่ที่ขึ้นหนาแน่นบนเนื้อที่ประมาณ 6 ไร่ จะมีผิวใบประมาณ 50,000 ตารางเมตร จะดูดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศได้ 900 กิโลกรัมต่อชั่วโมง และจะคายออกซิเจน 600 กิโลกรัมต่อชั่วโมง
ต้นมี่มีพื้นที่ผิวใบประมาณ 150 ตารางเมตร จะผลิตออกซิเจนเพียงพอ สำหรับมนุษย์ 1 คน ภายใน 1 ปื ในแสงสว่างปกติ ใบไม้ 1 ตารางเมตร จะผลิตน้ำตาลได้ 1 กรัม ต่อชั่วโมง
ถ้าคิดประมาณคุณค่าทางเศรษฐกิจของต้นไม้ในการผลิตก๊าซออกซิเจน ดูดสารพิษ ดูดซับความร้อน รวมถึงการใช้ประโยชน์ด้านอุปโภคและบริโภคแล้วไม้ขนาดใหญ่หนึ่งต้นจะมีมูลค่าต้นละ 1,000,000 บาท
( เอกสารแนะนำ การเพาะชำกล้าไม้ การปลูกและบำรุงรักษาต้นไม้ : ฝ่ายเพาะชำกล้าไม้ สำนักงานป่าไม้เขตนครศรีธรรมราช กรมป่าไม้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ )
ร่วมปลูกต้นไม้ถวายพ่อหลวง โครงการ 1 ล้านกล้า ถวายพ่อ จาก ปตท.
วันนี้ (22มิถุนายน 2553) ได้ร่วมปลูกต้นไม้ถวายแด่พ่อหลวงของปวงชนชาวไทย โดยพาเจ้าหน้าที่ของสำนักงานพลังงานจังหวัดน่าน ไปรับกล้าไม้ที่ศาลากลางจังหวัดน่าน ซึ่ง โครงการฯนี้ นี้เป็นการสานต่อแนวพระราชดำริและต่อยอดโครงการปลูกป่าถาวร เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์ ปีที่ 50 จำนวน 1 ล้านไร่ พร้อมกันนี้ยังเป็นการรณรงค์สร้างจิตสำนึกการมีส่วนร่วมของประชาชน ในการช่วยลดปัญหาภาวะโลกร้อน ด้วยการเปิดโอกาสให้ประชาชนไทย หน่วยงานภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศ ร่วมกันปลูกต้นไม้ รวม 1 ล้านกล้า จากเมล็ดพันธุ์ไม้ 9 ชนิด โดยจะมีการจัดกิจกรรมแจกต้นกล้าทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 21-30 มิถุนายน ณ ศาลากลางจังหวัดทั่วประเทศ โดยประชาชนสามารถรับต้นกล้าในการร่วมสร้างพื้นที่สีเขียว ไปปลูกตามบ้านเรือนหรือพื้นที่ต่างๆ รวมทั้งจะจัดกิจกรรมคาราวานแจกกล้าไม้ดูดสารพิษ ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ระหว่างวันที่ 5-11 กรกฎาคม ณ อาคารสำนักงาน พื้นที่ชุมชน โรงภาพยนตร์ และสถานีบริการน้ำมัน ปตท. โดย
• ประชาชนหรือหน่วยงาน จะได้รับ “ใบไม้จำลอง” เพื่อให้เขียนชื่อและที่อยู่ และวิธีการลดโลกร้อนถวายพ่อ ลงบนใบไม้
• ประชาชนหรือหน่วยงาน ส่งใบไม้จำลองที่กรอกแล้วคืนเจ้าหน้าที่ และรับต้นไม้จากทีมงาน
วิธีการแจก
• 1 คน รับ 1 ต้นกล้า (พันธุ์ไม้ที่แจกได้แก่ 1. ต้นกำลังเสือโคร่ง 2. ต้นประดู่ 3. ต้นมะขามป้อม 4. ต้นเสี้ยว 5. ต้นสะเดา 6. ต้นสัก)
• ถ้ามาเป็นองค์กร บันทึกชื่อองค์กรและจดจำนวนต้นไม้ที่รับมอบ และขอรายชื่อของพนักงานในองค์กร เพื่อนำมารวบรวมเป็น 1 ในล้านชื่อที่จะถวายพ่อหลวง
• ใบไม้ที่กรอกรายชื่อแล้ว จะถูกรวบรวม และ Upload ขึ้นใน www. Milliontreesforking.com
• ปตท. จะรวบรวมรายชื่อให้ครบ 1 ล้านคน และทูลเกล้าถวายแด่ในหลวง
• 1,000 ท่านแรกที่มาติดต่อรับต้นกล้า จะได้รับสายรัดข้อมือ Wrist Band ร่วมเป็นหนึ่งในล้านคน ที่จะช่วยกันปลูกต้นไม้ ถวายแด่พ่อหลวงของเรา

• ประชาชนหรือหน่วยงาน จะได้รับ “ใบไม้จำลอง” เพื่อให้เขียนชื่อและที่อยู่ และวิธีการลดโลกร้อนถวายพ่อ ลงบนใบไม้
• ประชาชนหรือหน่วยงาน ส่งใบไม้จำลองที่กรอกแล้วคืนเจ้าหน้าที่ และรับต้นไม้จากทีมงาน
วิธีการแจก
• 1 คน รับ 1 ต้นกล้า (พันธุ์ไม้ที่แจกได้แก่ 1. ต้นกำลังเสือโคร่ง 2. ต้นประดู่ 3. ต้นมะขามป้อม 4. ต้นเสี้ยว 5. ต้นสะเดา 6. ต้นสัก)
• ถ้ามาเป็นองค์กร บันทึกชื่อองค์กรและจดจำนวนต้นไม้ที่รับมอบ และขอรายชื่อของพนักงานในองค์กร เพื่อนำมารวบรวมเป็น 1 ในล้านชื่อที่จะถวายพ่อหลวง
• ใบไม้ที่กรอกรายชื่อแล้ว จะถูกรวบรวม และ Upload ขึ้นใน www. Milliontreesforking.com
• ปตท. จะรวบรวมรายชื่อให้ครบ 1 ล้านคน และทูลเกล้าถวายแด่ในหลวง
• 1,000 ท่านแรกที่มาติดต่อรับต้นกล้า จะได้รับสายรัดข้อมือ Wrist Band ร่วมเป็นหนึ่งในล้านคน ที่จะช่วยกันปลูกต้นไม้ ถวายแด่พ่อหลวงของเรา

วันอังคารที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2553
เตามหาเศรษฐี (เตาซุปเปอร์อั้งโล่ หรือเตาหุงต้มประสิทธิภาพสูง)
เตามหาเศรษฐี (เตาซุปเปอร์อั้งโล่ หรือเตาหุงต้มประสิทธิภาพสูง)
เป็นเตาที่ได้พัฒนาขึ้นมาทดแทนเตาอั้งโล่ท้องตลาดที่ใช้อยู่ทั่วไป มีประสิทธิภาพเชิงความร้อนเฉลี่ย 29 % ทำให้ประหยัดเชื้อเพลิงหุงต้มได้ถึง 32% เมื่อเทียบกับเตาอั้งโล่ธรรมดา

รูปที่ 1 ส่วนประกอบของเตามหาเศรษฐี
ตารางที่ 1 แสดงผลประหยัดจากการใช้เตาประสิทธิภาพสูงเมื่อใช้ถ่านเท่ากัน
เป็นเตาที่ได้พัฒนาขึ้นมาทดแทนเตาอั้งโล่ท้องตลาดที่ใช้อยู่ทั่วไป มีประสิทธิภาพเชิงความร้อนเฉลี่ย 29 % ทำให้ประหยัดเชื้อเพลิงหุงต้มได้ถึง 32% เมื่อเทียบกับเตาอั้งโล่ธรรมดา

รูปที่ 1 ส่วนประกอบของเตามหาเศรษฐี
ตารางที่ 1 แสดงผลประหยัดจากการใช้เตาประสิทธิภาพสูงเมื่อใช้ถ่านเท่ากัน

การดูแลรักษาเตา
1. อย่าให้น้ำหรืออาหารหกรดเตา เพื่อป้องกันเตาเป็นสนิมและผุกร่อนง่าย
2. เก็บรักษาเตาไว้ในที่ร่มไม่เปียกฝนหรือในที่ๆมีความชื้นสูง หากไม่ใช้เตาเป็นเวลานาน ควรใช้น้ำมันชโลมเพื่อป้องกันสนิม
3. ในการเคลื่อนย้ายเตา อย่าวางกระแทกเพราะจะทำให้ฉนวนบุเตาไม่ติดแน่นกับตัวถัง เตาที่ใช้จะไม่ทน
4. ฉนวนบุที่ฉาบไว้โดยรอบผนังกรวยด้านใน หากมีการแตกร้าวหรือหลุดร่วนให้ใช้ดินเหนียวผสมขี้เถ้าแกลบในอัตราส่วน 1 : 5 ยาทับรอยชำรุดนั้น
ตารางที่ 2 แสดงการเปรียบเทียบคุณสมบัติของเตาอั้งโล่ท้องตลาดกับเตาซุปเปอร์อั้งโล่

อบรมการผลิตเตาอั้งโล่ประสิทธิภาพสูงให้กับชุมชนเทศบาลตำบลเชียงกลาง
วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤษภาคม 2553
วันนี้สำนักงานพลังงานจังหวัดน่านได้จัดกิจกรรมอบรมการผลิตเตาอั้งโล่ประสิทธิภาพสูงให้กับชุมชนเทศบาลตำบลเชียงกลาง อำเภอเชียงกลาง จังหวัดน่าน ซึ่งกิจกรรมนี้เป็นการบูรณาการแผนพลังงานเข้าสู่ฐานอาชีพ ของชุมชนที่ได้เข้าร่วมโครงการวางแผนพลังงานชุมชน 300 ชุมชน ในปี 2552 ซึ่งสำหรับในปีนี้ทางกระทรวงพลังงานได้ต่อยอดกิจกรรมจากปี 2552 โดยจะเน้นไปทางการบูรณาการเข้ากับมิติต่างๆของชุมชน เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับแผนพลังงาน ซึ่งมีกิจกรรมทั้งหมด 4 กิจกรรม ดังนี้
กิจกรรมที่ 1 จัดประชุมปลุกและปรับปรุงแผน
กิจกรรมที่ 2 จัดเก็บข้อมูลเพื่อทำการวิเคราะห์ผลการประหยัดพลังงาน
กิจกรรมที่ 3 บูรณาการแผนพลังงานเข้าสู่บทเรียนการสอนในท้องถิ่น
กิจกรรมที่ 4 บูรณาการแผนพลังงานเข้าสู่ฐานอาชีพ
สำหรับกิจกรรมอบรมการผลิตเตาอั้งโล่ประสิทธิภาพสูงเป็นกิจกรรมที่ 4 ซึ่งมีตัวแทนชุมชนจากหมู่บ้านต่างที่เข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมด 30 คน เริ่มงานตอนเช้าประมาณ 9 โมง โดยนายจารุเกียรติ ปัญญาดี พลังงานจังหวัดน่าน เป็นผู้กล่าวรายงาน และนายอาณัติ จริยโกมล นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเชียงกลางเป็นประธานกล่าวเปิดงาน
วันนี้สำนักงานพลังงานจังหวัดน่านได้จัดกิจกรรมอบรมการผลิตเตาอั้งโล่ประสิทธิภาพสูงให้กับชุมชนเทศบาลตำบลเชียงกลาง อำเภอเชียงกลาง จังหวัดน่าน ซึ่งกิจกรรมนี้เป็นการบูรณาการแผนพลังงานเข้าสู่ฐานอาชีพ ของชุมชนที่ได้เข้าร่วมโครงการวางแผนพลังงานชุมชน 300 ชุมชน ในปี 2552 ซึ่งสำหรับในปีนี้ทางกระทรวงพลังงานได้ต่อยอดกิจกรรมจากปี 2552 โดยจะเน้นไปทางการบูรณาการเข้ากับมิติต่างๆของชุมชน เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับแผนพลังงาน ซึ่งมีกิจกรรมทั้งหมด 4 กิจกรรม ดังนี้
กิจกรรมที่ 1 จัดประชุมปลุกและปรับปรุงแผน
กิจกรรมที่ 2 จัดเก็บข้อมูลเพื่อทำการวิเคราะห์ผลการประหยัดพลังงาน
กิจกรรมที่ 3 บูรณาการแผนพลังงานเข้าสู่บทเรียนการสอนในท้องถิ่น
กิจกรรมที่ 4 บูรณาการแผนพลังงานเข้าสู่ฐานอาชีพ
สำหรับกิจกรรมอบรมการผลิตเตาอั้งโล่ประสิทธิภาพสูงเป็นกิจกรรมที่ 4 ซึ่งมีตัวแทนชุมชนจากหมู่บ้านต่างที่เข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมด 30 คน เริ่มงานตอนเช้าประมาณ 9 โมง โดยนายจารุเกียรติ ปัญญาดี พลังงานจังหวัดน่าน เป็นผู้กล่าวรายงาน และนายอาณัติ จริยโกมล นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเชียงกลางเป็นประธานกล่าวเปิดงาน

ต่อจากนั้นอาจารย์ธนชัย จาระณะ ซึ่งเป็นผู้เชีร่ยวชาญเรื่องการปั้นเตาและเป็นอาสาสมัครพลังงานชุมชน (อสพน.)ของจังหวัดลำปาง ก็ได้เริ่มสอนวิธีการปั้นเตา ซึ่งใช้เวลาในการสอนทั้งหมด 10 วัน ( 20 – 29 พฤษภาคม)

เนื้อหาการสอน บทที่ 1
ส่วนผสมปั้นเตา
ดิน 1 ส่วนผสมแกลบดำ 2 ส่วน
ส่วนผสมปั้นรังผึ้ง
ดิน 1 ส่วน แกลบดำ 2-3 ส่วนนวดให้เข้ากัน
วิธีการปั้นเตา
1. นำแบบชุปน้ำโรยขี้เถ้าแล้วนำมาตั้งบนแผ่นบล็อก
2. นำดินที่นวด แล้วมาใส่ลงในแบบปั้นกดให้แน่น
3. ใช้กำปั้นกดลงตรงกลางแบบแล้วดึงยกขึ้นรูป
4. นำปีกผีเสื้อลงปั่นเพื่อขึ้นรูปด้านในแล้วแต่งด้านบน
5. นำลูกปูนลงกดเพื่อขึ้นรูปหัวเตาแล้วยกออกแล้วแต่งด้านใน
6. แต่งเสร็จยกออกแล้วนำไปเทก่อน โรยขี้เถ้าเล็กน้อย
เนื้อหาการสอน บทที่ 2
ขั้นตอนการเจาะรังผึ้ง
1 นำแผ่นรังผึ้งมาปาดหน้าให้เรียบทุบให้แน่น
2 นำวงรัดมารัดให้พอดี
3 ขีดเส้นผ่านศูนย์กลางสองเส้นติดกัน
4 เจาะรูแรกตรงกลาง
5 เจาะรูที่ 2-3-4-5 ขึ้นข้างบนตามลำดับ
6 หมุนแผ่นที่เจาะ 1-2-3-4-5 เข้าหาตัว และเจาะรูที่ 6-7-8-9 ขึ้นด้านบนเหมือนครั้งแรก
7 หมุนรังผึ้งที่แห้งให้อยู่ในแนวนอน
8 เริ่มเจาะตรงกลางระหว่างแกน จำนวน 8-7-6-5
9 หมุนรังผึ้งด้านที่เจาะเข้าหาตัวแล้วเริ่มเจาะเหมือนครั้งแรกจนครบ 61 รู
3. ใช้กำปั้นกดลงตรงกลางแบบแล้วดึงยกขึ้นรูป
4. นำปีกผีเสื้อลงปั่นเพื่อขึ้นรูปด้านในแล้วแต่งด้านบน
5. นำลูกปูนลงกดเพื่อขึ้นรูปหัวเตาแล้วยกออกแล้วแต่งด้านใน
6. แต่งเสร็จยกออกแล้วนำไปเทก่อน โรยขี้เถ้าเล็กน้อย
เนื้อหาการสอน บทที่ 2
ขั้นตอนการเจาะรังผึ้ง
1 นำแผ่นรังผึ้งมาปาดหน้าให้เรียบทุบให้แน่น
2 นำวงรัดมารัดให้พอดี
3 ขีดเส้นผ่านศูนย์กลางสองเส้นติดกัน
4 เจาะรูแรกตรงกลาง
5 เจาะรูที่ 2-3-4-5 ขึ้นข้างบนตามลำดับ
6 หมุนแผ่นที่เจาะ 1-2-3-4-5 เข้าหาตัว และเจาะรูที่ 6-7-8-9 ขึ้นด้านบนเหมือนครั้งแรก
7 หมุนรังผึ้งที่แห้งให้อยู่ในแนวนอน
8 เริ่มเจาะตรงกลางระหว่างแกน จำนวน 8-7-6-5
9 หมุนรังผึ้งด้านที่เจาะเข้าหาตัวแล้วเริ่มเจาะเหมือนครั้งแรกจนครบ 61 รู
เนื้อหาการสอน บทที่ 3
ขั้นตอนการแต่งเตา
1. วัดส่วนสูงโดยยึดส่วนที่ต่ำที่สุดเป็นความสูงของเตา
2. วัดวงกลม แล้วทำการตัดให้กลมตามแบบ
3. ตัดเส้าเตาลงประมาณ ½ เซนติเมตร
4. แต่งดั้งเตาให้พอประมาณ
5. คว้านวงกลมด้านในเตาให้ได้ตามขนาด 17 เซนติเมตร
6. แต่งโค้งด้านในให้กว้างพอประมาณ เพื่อสามารถให้ใส่รังผึ้งได้อย่างสะดวก
7. เจาะช่องลม
8. รีดน้ำ ขัดมัน
เนื้อหาการสอน บทที่ 4
ขั้นตอนการเรียงเตา
1. รองพื้นด้วยแกลบประมาณ 1 คืบ
2. นำเตาที่ตากให้แห้งมาเรียงตามรูป
เนื้อหาการสอน บทที่ 5
ส่วนผสมของการบรรจุเตา
1. ทำการผสม ส่วนผสมฉนวนเพื่อใช้ เป็นฉนวนด้านข้างของเตา
ส่วนผสม ดิน 1 ส่วน : แกลบขาว 5 ส่วน ผสมให้เข้ากัน
2. ส่วนผสมฉนวนรังผึ้ง
ส่วนผสม ดินหมัก 1 ส่วน : แกลบดำละเอียด 5 ผสมให้เข้ากัน
3. ฉนวนยารอยแตกของเตา
ส่วนผสม ดินหมัก 1 ส่วน : สีฝุ่น 1 ส่วน
4. ส่วนผสมของ ปูนซีเมนต์สำหรับปิดรอบขอบเตา
ส่วนผสม ปูนซีเมนต์ 1 ส่วน : ทราย 1 ส่วน
ขั้นตอนการบรรจุเตา
1. อัดฉนวนรอบๆเตา โดยใช้ส่วนผสมที่เตรียมเอาไว้แล้วมาทำการอัด ดิน 1 ส่วน : แกลบขาว 5 ส่วน
2. อัดทรายหยาบ
3. เจาะช่องลม
4. อัดทรายรอบๆ บริเวณที่ตัดช่องลมออก
5. อัดปูนซีเมนต์
6. ใส่รังผึ้ง
7. อัดฉนวนรังผึ้ง
8. ทาสี
ขั้นตอนการเรียงเตา
1. รองพื้นด้วยแกลบประมาณ 1 คืบ
2. นำเตาที่ตากให้แห้งมาเรียงตามรูป

เนื้อหาการสอน บทที่ 5
ส่วนผสมของการบรรจุเตา
1. ทำการผสม ส่วนผสมฉนวนเพื่อใช้ เป็นฉนวนด้านข้างของเตา
ส่วนผสม ดิน 1 ส่วน : แกลบขาว 5 ส่วน ผสมให้เข้ากัน
2. ส่วนผสมฉนวนรังผึ้ง
ส่วนผสม ดินหมัก 1 ส่วน : แกลบดำละเอียด 5 ผสมให้เข้ากัน
3. ฉนวนยารอยแตกของเตา
ส่วนผสม ดินหมัก 1 ส่วน : สีฝุ่น 1 ส่วน
4. ส่วนผสมของ ปูนซีเมนต์สำหรับปิดรอบขอบเตา
ส่วนผสม ปูนซีเมนต์ 1 ส่วน : ทราย 1 ส่วน
ขั้นตอนการบรรจุเตา
1. อัดฉนวนรอบๆเตา โดยใช้ส่วนผสมที่เตรียมเอาไว้แล้วมาทำการอัด ดิน 1 ส่วน : แกลบขาว 5 ส่วน
2. อัดทรายหยาบ
3. เจาะช่องลม
4. อัดทรายรอบๆ บริเวณที่ตัดช่องลมออก
5. อัดปูนซีเมนต์
6. ใส่รังผึ้ง
7. อัดฉนวนรังผึ้ง
8. ทาสี
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)